วันนี้ 14 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 15.30 น. โดยประมาณ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจภัยมีมติโดยตุลาการเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)
ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่ 40 สว. ยื่นผ่านประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากการแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยฝ่ายนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง มี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกฯ มาฟังคำวินิจฉัย
ย้อนเส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ในในวันที่ 23 ส.ค.2566 นายเศรษฐา รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยหนึ่งในคำสัญญาที่นายเศรษฐา ประกาศว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน นับจากวันนี้เป็นต้นไป