ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพรวมราคาสินค้าเครื่องเซ่นไหว้ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 น่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4% โดยสินค้าเครื่องเซ่นไหว้จะมีทั้งกลุ่มที่ราคาแพงขึ้นและกลุ่มที่ราคาถูกลงจากช่วงเทศกาลตรุษจีนปีก่อน ตามปริมาณผลผลิตเป็นหลัก เช่น สินค้าที่คาดว่าจะมีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด ส้ม ผักกาดขาว, สินค้าที่คาดว่าจะมีราคาทรงตัว ได้แก่ เนื้อไก่ (ทั้งตัวรวมเครื่องใน), สินค้าที่คาดว่าจะมีราคาลดลง ได้แก่ กล้วยหอมทองและผักอื่นๆ เช่น คะน้า ขึ้นฉ่าย กวางตุ้ง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคส่วนใหญ่คงรู้สึกว่าราคาเครื่องเซ่นไหว้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุจากค่าครองชีพโดยรวมที่สูง แต่ก็ยังมีความจำเป็นจะต้องซื้อสำหรับกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีนที่สืบสานประเพณีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนที่น้อยลง
การให้อั่งเปากับลูกหลาน/ลูกจ้าง ยังเป็นกิจกรรมที่คนให้ความสนใจและรอคอย แต่ท่ามกลางกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ผู้ปกครอง/นายจ้าง น่าจะให้อั่งเปา ใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน หลังจากที่เพิ่งมีการประกาศปรับค่าแรงขั้นต่ำไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
โดยคาดว่าบรรยากาศการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้อาจคึกคักขึ้นแต่คงไม่มาก เพราะวันจ่าย/วันไหว้/วันขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันทำงานตามปกติ โดยมาตรการภาครัฐ ทั้งการแจกเงินผู้สูงอายุเฟส 2 (29 ม.ค. 2568) และโครงการลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) จะมีส่วนกระตุ้นยอดขายบางส่วนให้กับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้ อาทิ ออกใบกำกับภาษี เสนอโปรโมชั่นด้านราคา
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2568 อาจเติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีนปีก่อน จากปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก ขณะที่คนเข้าร่วมอาจลดลง โดยปัจจุบันคนไทยเชื้อสายจีนในกรุงเทพฯ มีอยู่ราว 2 ล้านคน
ขณะที่ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ราคามักขยับสูงขึ้นก่อนเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน เนื่องจากในอดีตคนนิยมมอบทองคำเพื่อเป็นของขวัญ แต่ระยะหลังการปรับขึ้นของราคาทองคำ เป็นผลจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อย รวมถึงธนาคารกลางแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ราคาทองคำก็ยังคงแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น ซึ่งคงจะหนุนให้เกิดแรงขายเพื่อทำกำไร หรือบางส่วนนำทองคำไปจำนำ/ขายมากขึ้น