สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำในประเทศไทย วันนี้ 8 เมษายน 2567 ครั้งที่ 25 เมื่อเวลา 14.01 น. -50 บาท รวมสุทธิเพิ่มขึ้น +250 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่งรับซื้อ 40,500 บาท ราคาขายออก 40,600 บาท ด้านทองรูปพรรณรับซื้อ 39,764.68 บาท ราคาขายออก 41,100 บาท นับเป็นปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมายครั้งประวัติศาสตร์ที่สมาคมค้าทองคำประกาศปรับราคาทองคำถึง 10 ครั้งภายในเวลา 60 นาที หรือครบ 1 ชั่วโมงแรกนับตั้งแต่เปิดตลาดครั้งแรกเมื่อเวลา 9.07 น.
ส่งผลทำสถิติราคาทองคำสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในรอบที่ 24 ตั้งแต่ต้นปีนี้ ทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 8 เมษายน 2567 ราคทองคำในไทยทะยานขึ้น +6,700 บาท/บาททองคำ หรือทะยานขึ้น +19.32%
ด้านศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 8-12 เม.ย.67 พบว่า 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้จะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 373 ราย ในจำนวนนี้มี 265 ราย หรือเทียบเป็น 71% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์นี้จะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 68 ราย หรือเทียบเป็น 18% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 40 ราย หรือเทียบเป็น 11% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์ราคาทองคำนั้น ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 38,850 – 40,250 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 40,250 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 1,700 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 38,550 บาท)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่
1. สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ทองคำทำสถิติแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์จากแรงซื้อทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านยืนยันจะตอบโต้อิสราเอลที่โจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรีย
2. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 10 เมษายน 2567 ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยลงในการประกาศรอบนี้ แต่อาจมีความเป็นไปได้สูงที่ กนง. จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงเดือน มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ตลาดคาดว่าสหรัฐฯ น่าจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และทุนสำรองระหว่างประเทศ
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้ผลิตของเดือน มีนาคม 2567, บันทึกการประชุม FED เมื่อวันที่ 19-20 มีนาคม 2567, ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน เมษายน 2567
