สถาบันวิสัยทัศน์แห่งเอเชีย หรือ AVI เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 เพื่อทำความเข้าใจความคิดเห็นและการรับรู้ของประชาชนชาวกัมพูชา โดยเฉพาะเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลกัมพูชา (RGC) ในการแก้ไขข้อพิพาทบริเวณชายแดนกับไทย
AVI ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์และสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1,588 คน ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มคนอายุน้อย วัยกลางคน และวัยชรา โดยมาจากภูมิหลังที่หลากหลาย เช่น แรงงานในและต่างประเทศ ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐ นักศึกษา ธุรกิจ และกลุ่มอื่น ๆ
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2568 นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แชร์ผลการสำรวจความคิดเห็นกรณีพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทยของสถาบันวิสัยทัศน์แห่งเอเชีย (AVI) โดยระบุว่า “ชาวกัมพูชา 94% แสดงความพึงพอใจต่อการดำเนินการของรัฐบาลกัมพูชาเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย”
“นอกจากนี้ เกือบ 100% สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลในการผลักดันคดีที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ผ่านกลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
สำหรับผลการสำรวจ ความคิดเห็น AVI พบว่า ประชาชนชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ (มากกว่า 93.6%) พึงพอใจกับการดำเนินการของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย อีกทั้ง ชาวกัมพูชา 99.8% สนับสนุนให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ผ่านกลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) อย่างเต็มที่ โดยชาวกัมพูชา 29.3% ให้ความสำคัญกับการเจรจาทวิภาคี ตราบเท่าที่ยังเชื่อมโยงกับกลไกของ ICJ และชาวกัมพูชาเพียงส่วนน้อย ประมาณ 1.1% ที่เชื่อในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ และแทบไม่มีใครเลย (ประมาณ 0.2%) ที่สนับสนุนสงคราม
ขณะที่ ชาวกัมพูชา 88.7% พึงพอใจกับการปิดพรมแดนของรัฐบาลกัมพูชาเพื่อตอบโต้การปิดพรมแดนฝ่ายเดียวของกองทัพไทย นอกจากนี้ ชาวกัมพูชา 88.6% ยังสนับสนุนการบริโภคสินค้าท้องถิ่นอีกด้วย อีกทั้ง 73.8% เชื่อว่า ข้อพิพาทชายแดนได้รับการยั่วยุจากกองทัพไทย
ในการตอบสนองต่อมาตรการเตรียมกำลังทหารให้เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ชาวกัมพูชา 95.8% สนับสนุนแนวทางการป้องกันประเทศของกองทัพกัมพูชา (RCAF) ในการเตรียมพร้อมป้องกันและตอบโต้การรุกรานจากกองทัพไทย
โดยรวมแล้ว จากการสำรวจความคิดเห็นข้างต้น AVI สรุปได้ว่า รัฐบาลกัมพูชามีอำนาจอธิปไตย เป็นเจ้าของ และมีประสบการณ์ทางการเมืองที่กว้างขวาง มีกลยุทธ์ที่ครอบคลุม เจาะลึก และมองการณ์ไกลในการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ชายแดนกับไทย และชาวกัมพูชาส่วนใหญ่สนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาในการดำเนินการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ชายแดนกับไทย โดยได้รับข้อมูลและคำอธิบายที่ชัดเจน ถูกต้อง และมั่นคงจากผู้นำกัมพูชา โดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านกลไกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อรักษาสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อประโยชน์ที่จับต้องได้ของทั้งกัมพูชาและไทย