นายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) กล่าวว่า การร้องเรียนจากผู้บริโภคที่นำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลเอกชนมาร้องเรียน โดยพบการคิดค่าเวชภัณฑ์และบริการในราคาที่สูงเกินจริงเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบใบเสร็จรับเงินของผู้ร้องเรียน เราพบว่าโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งคิดค่าเวชภัณฑ์ในราคาที่สูงเกินความเป็นจริงอย่างมาก กรณีน้ำเกลือขนาด 1 ลิตร หรือความจุ 1,000 มิลลิลิตร ซึ่งโรงพยาบาลของเอกชนคิดราคา 919 บาท ท่ามกลางต้นทุนแท้จริงอยู่ที่ 45 บาทต่อขวดลิตร หรือคิดเป็นส่วนต่างราคากว่า 800 บาท หรือสูงมากถึง 1,900%
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าพลาสเตอร์ยาปิดแผลที่มีความยาว 6 เซนติเมตรนั้น โรงพยาบาลเอกชนคิดราคา 224 บาทต่อชิ้น ในขณะที่ราคาในท้องตลาดคิดกล่องละ 10 ชิ้น ที่ราคาเพียง 250 บาท หรือประมาณ 25 บาทต่อชิ้น หรือมีส่วนต่างราคาจากต้นทุนกว่า 700% ที่น่าตกใจที่สุด คือโรงพยาบาลเอกชนคิดค่าสำลีก้อนขนาด 0.35 กรัม ที่ 7 บาทต่อก้อน ส่วนต้นทุนสำลีก้อนในขนาดเดียวกันมีเพียง 10 สตางค์ หรือมีส่วนต่างสูงถึง 6,900%
รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) กล่าวว่า ต้องการให้เสียงของผู้บริโภคสะท้อนกลับไปยังหน่วยงานรัฐบาลว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการกำกับ และควบคุมไม่ให้เกิดเงินเฟ้อทางการแพทย์ที่อยู่ในระดับอันตราย เมื่อเปรียบเทียบส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับราคาของก้อนสำลีเรียกเก็บสูงมากมายถึง 6,900% แบบนี้ ยอมกันได้อย่างไร
ดังนั้น จึงเรียกร้องให้ผู้บริโภคคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการคิดค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง ให้เก็บใบเสร็จและหลักฐานต่างๆ มาร้องเรียนต่อสภาองค์กรของผู้บริโภค ที่หมายเลขโทร. 1502 เพื่อรวบรวมข้อมูลและผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบต่อไป