สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาแนะนำสุกรขุนหน้าฟาร์ม วันนี้ปรับราคาขึ้น 2 บาท ทำให้ราคาอยู่ 80 บาท/กิโลกรัม, สุกรซีก ราคา 92 บาท/กิโลกรัม, แม่พันธุ์คัดทิ้ง 60 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทางผู้เลี้ยงระบุราคานี้เป็นราคาเท่าต้นทุน ที่ผ่านมาขายหมูต่ำกว่าต้นทุนมาโดยตลอด 2 ปี ทำให้เกษตรกรบางรายเลิกกันไปเป็นจำนวนมาก
โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดว่าการผลิตสุกรในไทยปีนี้ มีปริมาณ 21.370 ล้านตัว ลดลงจาก 21.723 ล้านตัว ของปี 2567 ร้อยละ 1.63 เนื่องจากภาครัฐฯ กำหนดมาตรการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสุกร โดยขอความร่วมมีอผู้เลี้ยงรายใหญ่ปรับลดจำนวนแม่พันธุ์สุกร ในขณะที่คาดว่าการบริโภคสุกรจะมีปริมาณ 1.585 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณ 1.612 ล้านตััน ของปี 2567 ร้อยละ 1.69
โดยการขึ้นราคาของราคาเนื้อสุกรปี 68 เป็นไปตามคาดการณ์ของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (PIG BOARD) ซึ่งมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมีการประชุมเมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 ซึ่งที่ประชุมรับทราบสถานการณ์การผลิตเนื้อสุกรของไทยและของโลก ปี 68 การผลิตของโลกจะลดลง 1% มาอยู่ที่ 115.1 ล้านตัน จากเดิมปี 67 ผลิตได้ 116.02 ล้านตัน เนื่องจากแหล่งผลิตเนื้อสุกรลำดับต้นของโลก (จีน และสหภาพยุโรป) มีการปริมาณแม่พันธุ์ และการบริโภคเนื้อสุกรลดลงในปี 67 ในขณะที่สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และบราซิล มีการผลิตเพิ่มขึ้น
ขณะที่ การผลิตสุกรขุนของไทย ปี 67 ผลิตได้ 23.46 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่ 14.67% เป็นผลจากการปรับตัวของฟาร์มสุกร ที่ทำระบบการเลี้ยงให้มีความปลอดภัยทางชีวภาพ ราคาสุกรมีชีวิต มีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 72.91 บาท เนื้อสุกรชำแหละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 132.26 บาท ส่วนผลการดำเนินโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร มีการปราบปรามเนื้อสุกรเถื่อนอย่างจริงจัง และตัดวงจรลูกสุกรทำหมูหัน ปี 67 จำนวน 43,262 ตัว รวมถึงเปิดตลาดส่งออกสุกรมีชีวิต และผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร และรักษาเสถียรภาพราคาสุกร
ในขณะที่กรมปศุสัตว์ และผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ 16 ราย ร่วมมือคุมปริมาณสุกรให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ โดยมีสาระสำคัญ ให้หยุดการขยายฟาร์มแม่พันธุ์ใหม่ คงระดับจำนวนแม่พันธุ์สุกรให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1.2 ล้านตัว ในปี 68 เพื่อลดความผันผวนของราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในภาพรวมทั้งประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมาย โดยสำนักกฎหมาย กรมปศุสัตว์