นายอลงกต บุญมาสุข เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ผลจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงกว่า 90% ของจีดีพี รายได้ที่ลดลง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงทิศทางหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่สูงขึ้น ล้วนส่งผลต่อการอำนาจการซื้อที่อยู่อาศัยและการขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้ภาพรวมยอดถูกปฎิเสธสินเชื่อยังสูงถึง 50% โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาต่ำ 3 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบาง ขณะเดียวกันกลุ่มราคาต่ำ 3 ล้านบาท เป็นตลาดขนาดใหญ่ของภาคอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน
ทั้งนี้ สมาคมอยู่ระหว่างหารือและรวบรวมความเห็นของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เพื่อหาแนวทางให้มีความเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่น รีเจ็กต์เรตสาเหตุมาจากอะไร กรอบสินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงินเป็นอย่างไร เพื่อที่สถาบันการเงินจะได้เข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่สถาบันการเงินเองก็ต้องมีเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เช่นกัน คงต้องหารือร่วมกันมากขึ้น เพื่อให้เดินไปด้วยกันได้ ซึ่งในมุมของสถาบันการเงิน จริงๆ อยากสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านผ่านกลไกสินเชื่อ แต่ยังมีหลายปัจจัยที่รุมเร้า ขณะนี้เรื่องของรีเจ็กต์เรตที่สูงนั้นไม่ใช่แค่บ้านใหม่ ในส่วนของบ้านมือสองราคาต่ำ 3 ล้านบาท ก็มีปัญหาเรื่องกู้ไม่ผ่านเช่นกัน