สมาคมโคเนื้อ-เกษตรกรผู้เลี้ยงโคยื่นหนังสือถึง​นายกฯ คัดค้านเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นซ้ำเติมทำราคาตกต่ำ

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน

โดยหนังสือที่ ยื่นต่อภาครัฐ​จะส่งถึ​งนายกรัฐมนตรี​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีเนื้อหา​ระบุว่า การเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐฯ จะกระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกว่า 1.4 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้องเผชิญปัญหาราคาโคตกต่ำจากการแข่งขันในตลาด โดยเคยได้รับผลกระทบมาแล้วจากการนำเข้าโคตามข้อตกลงการค้าเสรีกับออสเตรเลีย ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ

เกษตรกรยังกังวลด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากไทยมีกฎหมายห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงในอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ซึ่งสารดังกล่าวจัดเป็นสารก่อมะเร็งตามข้อมูลทางวิชาการ หากมีการนำเข้าเนื้อจากสหรัฐฯ ที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคภายในประเทศ และส่งผลกระทบต่อการส่งออกโคและผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศที่เข้มงวดด้านมาตรฐาน เช่น มาเลเซีย เวียดนาม และจีน

อีกทั้งการเปิดนำเข้าเนื้อโคจากสหรัฐฯ ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการยกระดับอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อ เช่น โครงการ “โคแสนล้าน” ที่มุ่งสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับเกษตรกร จึงขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดังกล่าว เพื่อปกป้องเกษตรกรไทยและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

นายสัตวแพทย์ วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒน์ชัย แกนนำสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การนำเข้าเนื้อโคจากสหรัฐฯถือเป็นขยะของอเมริกาซึ่งนอกจากจะทำลายผู้บริโภคแล้ว ยังจะทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงวัวเนื้อ วัวขุนบ้านเราเจ๊งและขาดทุนทันที อย่านำวัวเนื้อมาเป็นแพะในกำแพงภาษีเลย

อย่างไรก็ตาม สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน นัดจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทยเพื่อคัดค้านในเรื่องนี้ต่อไปกลุ่มเกษตรกรวันอังคารที่ 22 เมษายนนี้ อีกด้วย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles