วันนี้ 12 พฤษภาคม 2025 กรุงเจนีวาประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เวลา 9.10 น. โดยประมาณตามเวลาในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งตรงกับเวลา 14.10 น. ตามเวลาไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสก๊อต เบสเซนท์ และนายเจมีสัน กรีเออร์ หัวหน้าสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกาหรือยูเอสทีอาร์ แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการภาษีเป็นการชั่วคราว โดยลดการจัดเก็บอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs จากเดิมที่จัดเก็บ 145% ลดลง 115% เหลือเพียง 30% โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลานาน 90 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ในขณะเดียวกันรัฐบาลจีนได้ประกาศลดอัตราการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจากปัจจุบันที่เก็บสารในอัตรา 125% ลดลง 115% ลงมาเหลือที่ 10% ใช้เป็นการชั่วคราวนาน 90 วันมีผลในวันที่ 14 พฤษภาคมเช่นเดียวกัน
นายเจมีสัน กรีเออร์ หัวหน้าสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกาหรือยูเอสทีอาร์ แถลงเพิ่มเติมว่า อัตราภาษีที่เก็บกับจีนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 30% ใช้เป็นการชั่วคราวนาน 90 วันนั้น ขอยืนยันว่าอัตราภาษีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศจัดเก็บกับจีนในต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ระดับ 20% จากสาเหตุของการตอบโต้จีนที่พบการนำเข้ายาเฟนทานิลเข้าไปในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงมีผลบังคับใช้เช่นเดิม ในขณะเดียวกันอัตราภาษี 30% ที่ปรับลดลงนี้จะไม่รวมถึงการประกาศใช้อัตราภาษีโดยเฉพาะกับแต่ละอุตสาหกรรมที่มีมาก่อนหน้านี้ ดังนั้น สินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนในบางรายการและอยู่ในบางประเภทอุตสาหกรรมจะยังคงมีอัตราการจัดเก็บภาษีสูงมากนั่นเอง
ขณะที่การตอบสนองของตลาดทุนทั่วโลกพบว่าค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐเทียบเงินสกุลสำคัญปรับทะยานแข็งค่าสูงมากขึ้นถึง 0.7% ทำสถิติค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากที่สุดในรอบหนึ่งเดือนทันที หรือนับตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนเป็นต้นมา ขณะที่มีแรงเทขายค่าเงินเหรียญยูโรอย่างหนาตาส่งผลให้ ค่าเงินยูโรเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนอย่างรุนแรงถึง 1.1% มาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.1122 ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติค่าเงินยูโรตกต่ำในหนึ่งวันมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ด้านค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐปรากฏว่าแข็งค่าพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นแตะที่ระดับ 7.2001 ต่อดอลลาร์สหรัฐทำสถิติแข่งค่าสูงสุด ในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 เป็นต้นมา
นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันการเงินชื่อดังระดับโลกหลายแห่งล้วนมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันว่าอัตราภาษีตามตอบแทนที่ทั้งสองประเทศได้ประกาศปรับลดลงมากถึง 115% นั้นถือว่ามากเกินความคาดหมาย นายเคนเนธ บรัวซ์ นักวิเคราะห์จากธนาคารโซเซเอเต้ เจนเนอรัลในประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่าเดิมทีคาดการณ์ว่าการลดอัตราภาษีดังกล่าวทั้งสองฝ่ายจะลดลงเพียง 50% ดังนั้นส่งผลให้ความต้องการและปัจจัยบวกจะมีต่อสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐมากกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปสกุลเงินอื่นๆ ของโลก
