สายดื่มชาเขียวมัทฉะเจอซื้อแพง มัทฉะขาดแคลนพุ่งจากความต้องการสูง 10 เท่า ดันราคาผงมัทฉะกระฉูด 170% ในปีเดียว มากเป็นประวัติการณ์ ร้อนจัดกระทบหนักกับผลผลิตในญี่ปุ่น

สายดื่ม ชาเขียวมัทฉะ เจอซื้อแพง มัทฉะขาดแคลนพุ่งจากความต้องการสูง 10 เท่า ดันราคาผงมัทฉะกระฉูด 170% ในปีเดียว มากเป็นประวัติการณ์ ร้อนจัดกระทบหนักกับผลผลิตในญี่ปุ่น

สายดื่มชาเขียวมัทฉะเตรียมตัวจ่ายแพง แม้แต่ร้านขายชาเขียวมัทฉะหนีไม่พ้นต้องขึ้นราคาขาย ร้านขายชาเขียวมัทฉะหลายแห่งในญี่ปุ่นติดป้ายบอกว่าไม่มีขายแล้ว ปัจจุบัน ความต้องการดื่มชาเขียวมัทฉะทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในวัยเจนซี(Z) และคนเจนวาย(Y) หรือรุ่นมิลเลนเนียล มองหาเครื่องดื่มทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากคุณสมบัติของมัทฉะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ทำให้มีร้านกาแฟจำนวนมากทั่วโลกที่ทำเมนูทั้งแบบกาแฟผสมมัทฉะ เช่น มัทฉะลาเต้ สมูทตี้ และของหวาน

ในที่สุดชาเขียวมัทฉะเกิดขาดแคลนมากขึ้นอย่างชัดเจน สาเหตุจากอากาศร้อนจัดมากๆ ในประเทศญี่ปุ่นทำให้ใบเทนฉะ ซึ่งเป็นใบที่มีลําต้นแห้ง และนำมาบดละเอียดกลายเป็นผงชาเขียวมัทฉะ ซึ่งปลูกมากในภูมิภาคเกียวโต คิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของการผลิตเทนฉะของประเทศญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว อากาศร้อนในช่วงนั้นทำให้เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ของญี่ปุ่น

ดังนั้น ผลผลิตใบเทนฉะมีน้อยมากเมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวในเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ดังกล่าวทําให้ปริมาณผลิตตึงตัว และส่งผลต่อราคาใบเทนฉะมีราคาพุ่งสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางความต้องการเครื่องดื่มมัทฉะเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากมายในเวลานี้ไปทั่วโลก

ทีไลฟ์ (Tealife) ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งในประเทศสิงคโปร์ ต้องประกาศจำกัดการซื้อของลูกค้าเป็นครั้งคราว นายยูกิ อิชิ ผู้ก่อตั้งธุรกิจค้าส่งดังกล่าว เปิดเผยว่า ความต้องการมัทฉะจากลูกค้าเพิ่มขึ้น 10 เท่าในปี 2024 และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณมัทฉะในประเทศญี่ปุ่นจะลดลงก็ตามจากปัญหาผลผลิตที่ลดน้อยลง

มาซาฮิโระ โยชิดะ ชาวนารุ่นที่ 6 สามารถเก็บเกี่ยวใบเทนฉะได้เพียง 1.5 ตันในปีนี้ ซึ่งลดลงราว 1 ใน 4 จากการเก็บเกี่ยวปกติของที่ทำได้ถึง 2 ตัน สาเหตุจากฤดูร้อนปี 2024 ร้อนมาก จนทำให้พุ่มไม้เสียหาย ดังนั้นจึงไม่สามารถเก็บเกี่ยวด้วยการถอนใบชาได้มาก ในขณะที่ ผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นกําลังพยายามเพิ่มผลผลิตมัทฉะ แต่นั่นไม่สามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนในปัจจุบันได้ เนื่องจากเมื่อปลูกไปแล้วต้องใช้เวลา 5 ปีจึงจะเก็บเกี่ยวได้

สมาคมผู้ผลิตชาญี่ปุ่นทั่วโลก หรือ Global Japanese Tea Association เปิดเผยว่า ราคาเทนฉะพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนจากการประมูลผงเทนฉะในเดือนพฤษภาคมที่เมืองเกียวโตอยู่ที่ 8,235 เยนต่อกิโลกรัม หรือกว่า 1,855 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้น 170% จากปี 2024 ที่สำคัญ มีราคาสูงกว่าสถิติเดิมในปี 2016 ที่ 4,862 เยนต่อกิโลกรัม หรือกว่า 1,090 บาทต่อกิโลกรัม

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง แห่งญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การส่งออกชาเขียวรวมถึงมัทฉะของญี่ปุ่นในปี 2024 เพิ่มขึ้น 25% มีมูลค่า 36,400 ล้านเยน หรือ 252 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,153 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความต้องการชาผงที่เพิ่มขึ้น เช่น มัทฉะ ในแง่ปริมาณแล้ว การส่งออกชาเขียวของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 16%

ทั้งนี้ ในปี 2024 ประเทศญี่ปุ่นผลิตเทนฉะได้ 5,336 ตัน เพิ่มขึ้นเกือบ 2.7 เท่าจากเมื่อสิบปีก่อน เนื่องจากเกษตรกรญี่ปุ่นเปลี่ยนมาปลูกเทนฉะกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ผลิตชาญี่ปุ่นทั่วโลก คาดว่าผลผลิตมัทฉะจะลดลงในปีนี้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles