สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของไทย กำลังหาลู่ทางที่จะปรับโฉมอาณาจักรธุรกิจของเขาให้มีความชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือไทยเบฟ ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งนั้น ได้ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เขาครอบครองเช่นกัน
เอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ในวันนี้ (18 ก.ค.) ระบุว่า บมจ.ไทยเบฟจะขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (Frasers Property) ในสิงคโปร์ ให้กับบริษัททีซีซี แอสเซ็ทส์ (TCC Assets) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่นายเจริญเป็นเจ้าของเช่นกัน โดยภายใต้ข้อตกลงการสวอปหุ้นกับทีซีซี แอสเซ็ทส์นั้น ไทยเบฟจะเพิ่มการถือครองหุ้นในบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (Fraser & Neave – F&N) ซึ่งเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มในสิงคโปร์
นายประภากร ทองเทพไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของไทยเบฟระบุในแถลงการณ์ว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมสถานะของเราให้มีความชัดเจนมากขึ้น ด้วยการถอนตัวออกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ หุ้นจำนวน 28.78% ที่ไทยเบฟถือครองในบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้นั้น จะลดลงเหลือศูนย์หลังเสร็จสิ้นการทำธุรกรรม โดยธุรกรรมดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในประเทศไทย
ขณะเดียวกัน หุ้นที่บริษัททีซีซีถือครองอยู่ในเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 86.89% จากปัจจุบันที่ระดับ 58.1% และหุ้นที่ไทยเบฟถืออยู่ใน F&N จะเพิ่มขึ้นเป็น 69.61% จากปัจจุบันที่ระดับ 28.31%
ล่าสุด ราคาหุ้น F&N ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ พุ่งขึ้น 23% ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นระหว่างวันที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556