คาร์นิวส์ไชน่า สำนักข่าวและสื่อวงการอุตสาหกรรม และตลาดรถยนต์ชื่อดังในประเทศจีน เปิดเผยวันนี้ 13 พฤษภาคม 2025 ว่าโตโยต้ามอเตอร์ญี่ปุ่นกำลังประเมินการซื้อกิจการบริษัทและเจ้าของแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวียี่ห้อเนต้าซึ่งเผชิญกับภาวะวิกฤติการเงินอย่างรุนแรงและต่อเนื่องจนส่งผลให้กิจการของรถอีวียี่ห้อเนต้าในประเทศจีนตกอยู่ในสถานะยากลำบากมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวของโตโยต้า มอเตอร์ ถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Kuai Technology เปิดเผยว่า หากกระแสข่าวดังกล่าวมีความชัดเจน และได้รับการยืนยัน จะส่งผลให้ในแง่กลยุทธ์การทำตลาดรถอีวีในประเทศจีนของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นและของโลก สามารถที่จะทำตลาดรถอีวีในประเทศจีนได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นในอนาคตถึงแม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนในรูปแบบที่โตโยต้าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งการทำตลาดรถอีวีแบรนด์โตโยต้า หรือการทำตลาดรถอีวีแบรนด์ต้าในประเทศจีนก็ตาม
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ผ่านมา นายซูน เป่าหลง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า สถานการณ์ของธุรกิจรถอีวีเนต้าในประเทศจีนว่า บริษัทแม่ใช้วิธีการจัดการปัญหาหนี้โดยวิธีแปลงหนี้เป็นหุ้น เนต้าเปิดการเจรจากับบรรดาซัพพลายเออร์ และพันธมิตรต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ในจีน วิธีการนี้ทำให้เนต้าจัดการหนี้ได้ราว 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% นั้น เนต้าจีนทยอยจ่ายคืนให้ภายในระยะเวลา 15 เดือน เมื่อจัดการลดหนี้ได้ จึงทำให้มีเงินทุนเข้ามาและกลับมาดำเนินการตามปกติ นอกจากนี้ จะมีรายได้เข้ามาทยอยจ่ายส่วนที่เหลือภายใน 15 เดือนดังกล่าว
ทั้งนี้ เงินทุนส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
เนต้า ออโต้ จีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 หรือเมื่อ 11 ปีผ่านมา โดยกลุ่มบริษัทโฮซอน นิว เอนเนยยี่ ออโต้ แต่ต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤตตั้งแต่กลางปี 2024 เป็นต้นมา ส่งผลให้การผลิตรถอีวีต้องหยุดลง เกิดการเลิกจ้างพนักงานจํานวนมาก และบริษัทจำเป็นต้องวิ่งหาแหล่งเงินจากภายนอกมากอบกู้กิจการ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ผ่านมา เนต้า ออโต้ จีน เปิดเผยแผนการจัดหาเงินทุนที่ล้มเหลว ซึ่งมีมูลค่า 4,000-4,500 ล้านหยวน หรือ 552-621 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 18,216-20,493 ล้านบาท แม้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนแห่งชาติกลุ่มประเทศบริคส์ (BRICS) ราว 3,000 ล้านหยวน หรือ (414 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 13,662 ล้านบาทก็ตาม
