สื่อสหรัฐปูดเวียดนามเป็นงงดีลลดภาษีเหลือ 20% วงในรัฐบาลเวียดนามชี้ทรัมป์รวบรัดประกาศเก็บ 20% ทั้งที่ตัวเลขยังไม่นิ่ง หวังเจรจาเก็บระหว่าง 10-20%

สื่อสหรัฐปูดเวียดนามเป็นงงดีลลดภาษีเหลือ 20% วงในรัฐบาล เวียดนาม ชี้ ทรัมป์ รวบรัดประกาศเก็บ 20% ทั้งที่ตัวเลขยังไม่นิ่ง หวังเจรจาเก็บระหว่าง 10-20%

โพลิติโค (Politico) ซึ่งเป็นสื่อด้านการเมืองสหรัฐอเมริกาทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสำนักข่าวเศรษฐกิจการเงิน และการลงทุนชื่อดังระดับโลกในประเทศสหรัฐอเมริการายงานในประเด็นการเจรจาภาษีการค้าของประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติประเทศเวียดนาม ที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการประกาศรายละเอียดที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลเวียดนามไม่มีการประกาศท่าที หรือความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนใดๆ เกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงภาษีการค้าตามที่ปรารถนาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้

ทั้ง 2 สื่อชื่อดังของสหรัฐอเมริกา รายงานในทิศทางเดียวกันว่า แหล่งข่าวระดับสูงที่เกี่ยวข้องในการเจรจาครั้งนี้ ระบุว่า ผู้นำสูงสุดของเวียดนามรู้สึกประหลาดใจที่ประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลงในสื่อโซเชียลด้วยการแจ้งเก็บภาษี 20%

บลูมเบิร์ก รายงานด้วยการอ้างแหล่งข่าวว่า นายโต เลิม เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อนกับการที่ประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs สรุปที่ 20% หลังจากก่อนหน้านี้ รัฐบาลเวียดนามพยายามผลักดันให้การเจรจาต่อรองภาษีดังกล่าวให้ลดลงมาอยู่ระหว่าง 10-15% ซึ่งเป้าหมายสำคัญที่สุดคืออัตราภาษีดังกล่าวต้องสรุปกันที่ 11% เมื่อเปรียบเทียบกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนผ่านมาด้วยการจัดเก็บภาษีสูงถึง 46%

แหล่งข่าวระดับสูงของฝ่ายเวียดนาม เปิดเผยว่า หลังจากการโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันพุธที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายโต เลิม หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้แจ้งผลอัตราภาษีต่างตอบแทนต่อคณะเจรจา และบอกให้ทำงานต่อไปเพื่อลดอัตราภาษีนำเข้าลงให้อยู่ที่ระดับ 10-15%

ด้านเจ้าหน้าที่เจรจาของสหรัฐ เปิดเผยว่า อัตราภาษีต่างตอบแทนที่เก็บประเทศเวียดนาม 20% ซึ่งประธานาธิบดีนาย โนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไว้จะนำมาบังคับใช้แทนที่อัตราภาษีขั้นพื้นฐาน 10% ในปัจจุบัน โดยจะเป็นการรวมกับอัตราภาษีนำเข้าอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม เช่น อัตราภาษีนำเข้าสินค้าประเภทชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์อย่างยิ่ง หรือ Most favoured nation : MFN” ซึ่งเวียดนามได้รับสิทธินี้ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก ดังนั้น อัตราภาษีรวมทั้งหมดจะทำให้เฉลี่ยรวมที่แท้จริงสูงกว่า 20%

สำหรับภาษีนำเข้าเฉพาะกลุ่มสินค้า เช่น ภาษีนำเข้ารถยนต์และเหล็ก จะแยกจากอัตราภาษี 20% แต่ไม่สามารถรวมกันได้ ผู้นำเข้าต้องจ่ายภาษีนำเข้าประเภทใดประเภทหนึ่ง

โพลิติโค (Politico) รายงานว่า คำประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนกับเวียดนามที่ 20% นี้ สร้างความสั่นสะเทือนไเวียทุกระดับในเวียดนาม เนื่องจากในความเป็นจริง คณะเจรจาของเวียดนามไม่ได้เห็นชอบในอัตรา 20% ข้อมูลของแหล่งข่าวในคณะเจรจาตั้งเป้าหมายว่าอัตราภาษีดังกล่าวควรอยู่ที่ราว 11% ตอนคุยโทรศัพท์กับนายโต เลิม ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมเจรจาภาษีตั้งแต่แรก ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้พูดถึงตัวเลข แต่กลับประกาศตัวเลขภาษีที่สูงขึ้นเกือบสองเท่า

ล็อบบี้ยิสต์รายหนึ่งในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ซึ่งเป็นผู้ทำงานกับเวียดนาม และรัฐบาลอื่นๆ ในเอเชีย เปิดเผยว่าหลายคนในฝั่งสหรัฐก็ประหลาดใจเช่นกัน การกระทำเช่นนี้เล่นเอารัฐบาลเวียดนามตกใจ ผิดหวัง และแค้นเคือง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกลับออกมาโต้แย้งว่า รัฐบาลเวียดนามรับรู้อัตราภาษีก่อนมีการพูดคุยทางโทรศัพท์

นายเวนดี คัตเลอร์ อดีตรักษาการผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) สมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ในปัจจุบันเป็นรองประธานสถาบันนโยบายสังคมเอเชียในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า ทั้งทำเนียบขาว และรัฐบาลเวียดนามยังไม่มีฝ่ายใดเปิดเผยเอกสารข้อตกลงสุดท้าย ซึ่งเป็นการสรุปอัตราภาษี นอกจากนี้ ยังไม่มีการลงนามใดๆ ของทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเป็นทางการ

ที่สำคัญ ไม่ทราบแน่ชัดว่าอัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลเมื่อใด หรือมีผลหรือไม่ ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอน คุณคิดว่าเจรจากันแล้วก็จริง แต่ประธานาธิบดีสหรัฐสามารถกลับคำแล้วก็เปลี่ยนเงื่อนไข กรณีนี้ดูเหมือนรัฐบาลสหรัฐกระทำการฝ่ายเดียว แล้วประกาศต่อสาธารณะโดยที่เวียดนามไม่ได้เห็นชอบด้วย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles