ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยรายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นประชาชนด้านเศรษฐกิจและสังคมใน 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งทำการสำรวจ 420 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวในภาพรวมของเดือนพฤษภาคมลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเมษายนผ่านมา โดยกลุ่มดัชนีที่ลดลง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน(รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การลดลงของหนี้สิน การแก้ปัญหายาเสพติด การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ปัจจัยลบที่สำคัญ มีดังนี้ การท่องเที่ยวไทยซบเซาลง นักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ความไม่ปลอดภัยจากเหตุการณ์อาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวจีน และการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวจากประเทศในเอเชีย ส่งผลให้ไทยสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนเป็นจำนวนมาก
ด้านการส่งออกของไทยที่ลดลง เป็นเพราะอัตราภาษีการส่งออก ค่าเงินบาทแข็งและการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการของประเทศที่เป็นตลาดหลักของไทย เช่น จีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป ลดการนำเข้าสินค้าจากไทย ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ทำให้มีหนี้ครัวเรือนสูง โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งทำให้ประชาชนใช้จ่ายน้อยลง ส่งผลให้ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก ร้านค้า แผงลอย ต้องปิดตัวจำนวนมาก
ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยต่อไปว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ไม่มีความแน่นอน ล่าช้า เลื่อนเวลา และไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน อาทิ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท การแจกเงินที่ผ่านมาเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แต่ต้องสูญเสียงบประมาณของประเทศเป็นจำนวนมาก โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-600 บาทต่อวัน การลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค การพักชำระหนี้เกษตรกร รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย และไทยเที่ยวไทยคนละครึ่ง
ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นอยู่ในขณะนี้ สาเหตุสำคัญมาจากการบริหารงานของภาครัฐที่ผิดพลาด ซึ่งไม่ใช่ประเทศไทยไม่มีเงิน แต่ภาครัฐนำเงินไปใช้อย่างไม่คุ้มค่า และเงินที่นำไปใช้จำนวนมากไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง จึงทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
หากรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยคัดสรรเฉพาะโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และไม่ให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชันในหน่วยงานราชการ ซึ่งนอกจากจะสร้างผลบวกต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นผ่านการจ้างงานและการใช้จ่ายของรัฐแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพของการผลิตในระยะยาว ขณะเดียวกันโครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอาจเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยในการกระจายรายได้ และส่งเสริมกิจกรรมเศรษฐกิจฐานราก
ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง โรงงานปาล์มน้ำมันไม่รับซื้อผลผลิต หรือรับซื้อในจำนวนจำกัด ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และขาดรายได้ในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เกษตรกรปาล์มน้ำมันวอนขอให้ภาครัฐช่วยเหลือ กำหนดราคาประกันรายได้ผลผลิต สนับสนุนให้โรงกลั่นเพิ่มกำลังการผลิต ควบคุมการนำเข้าปาล์มน้ำมันเมื่อผลผลิตในประเทศมีล้นตลาด และส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำ