ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,374 จุด -140 จุด หรือ -0.33% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,809 จุด +12 จุด หรือ +0.21% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 18,415 จุด +138 จุด หรือ +0.76% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดหลุดระดับ 43,000 จุดเป็นวันที่ 4 ต่อเนื่อง ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 2 แห่งปิดบวกติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 6 ทำสถิติปิดบวกรายสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุดในปี 2024 นี้ นอกจากนี้ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +0.96%, +0.85% และ +0.8% ตามลำดับ
ในเดือนกันยายน ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดขึ้น +2% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแค่เดือนกันยายนปี 2011 เป็นต้นมา และยังปิดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่จบไตรมาส 3 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +8.2%, +5.5% และ +2.6% ตามลำดับ
สาเหตุนักลงทุนเทขายหุ้นบริษัทโบอิ้ง หลังจากพนักงานปฏิเสธข้อเสนอใหม่ขึ้นผลตอบแทนถึง 35% ส่งผลผละงานประท้วงดำเนินต่อไปเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับเลือกลงทุนหุ้นบริษัทเทสลา หลังจากผลประกอบการออกมาดีเกินคาด ดันราคาหุ้นขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปี นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเหลือเวลาอีกราว 5 สัปดาห์ที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 80% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%