ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 43,275 จุด +36 จุด หรือ +0.09% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,864 จุด +23 จุด หรือ +0.40% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 18,489 จุด +115 จุด หรือ +0.63% ไม่เพียงทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ แต่ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 2 แห่งยังปิดบวกติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 6 ทำสถิติปิดบวกรายสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุดในปี 2024 นี้
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +0.96%, +0.85% และ +0.8% ตามลำดับ
ในเดือนกันยายน ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดขึ้น +2% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแค่เดือนกันยายนปี 2011 เป็นต้นมา และยังปิดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่จบไตรมาส 3 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +8.2%, +5.5% และ +2.6% ตามลำดับ
สาเหตุจากผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ในไตรมาสที่ 3 ออกมาดีตามที่คาดไว้ เช่นเดียวกันกับพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ที่มีผลประกอบการออกมาดีตามคาด ในกลุ่มสถาบันการเงินออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์คึกคัก และหุ้นกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กในภาพรวมมีราคาปิดขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเหลือเวลาอีกราว 5 สัปดาห์ที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 96% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%