บลูมเบิร์ก สำนักข่าวชื่อดังระดับโลกด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน เปิดเผยว่า จากการเก็บข้อมูลสถานะการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ข้อมูลถึงเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2024 นัดลงทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยรวมกัน 14 วันทำการติดต่อกัน หรือตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 11 มิถุนายน 2024 (ในวันทำการ) มูลค่า 27,630.45 ล้านบาท ส่งผลทำสถิตินักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน 2 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2024
ขณะที่ เฉพาะในวันนี้ 11 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -3,208.68 ล้านบาท เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -10,866.65 ล้านบาท สอดรับกับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 11 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -93,026.27 ล้านบาท
ด้านดัชนีหุ้นไทย SET Index พบว่า เมื่อนับถึงวันนี้ 11 มิถุนายน 2024 ผบตอบแทนของดัชนีหุ้นดังกล่าวตกต่ำในทุในช่วงระยะเวลา โดยในช่วง 3 เดือนผ่านมา -4.89% ในช่วง 6 เดือนผ่านมา -4.52% และตั้งแต่ต้นปีนี้ -6.87% ที่น่าสนใจ คือ ดัชนีหุ้นไทยดำดิ่งลงเหวมากถึง -15% ใน 12 เดือนผ่านมา ทำสถิติตลาดหุ้นที่เลวร้ายที่สุดในโลก ซึ่งรวบรวมข้อมูลโดยบลูมเบิร์ก
ผลพวงจากดัชนีหุ้นไทยทรุดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี 7 เดือน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่องานนี้ 10 มิถุนายน จนถึงวันนี้ 11 มิถุนายน 2024 มีสาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจไทยซบเซา ค่าเงินบาทร่วงอ่อนค่า และสถานการณ์การเมืองในไทย แม้แต่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวยอมรับว่าภาวะตลาดหุ้นไทยตกต่ำมีสาเหตุมาจากภาวะการเมืองในไทย
สำหรับตลาดหุ้นประเทศไทยนั้น ปรากฏว่าดัชนีหุ้นไทยหรือ SET Index ยังคงเผชิญกับภาวะตกต่ำ และเซื่องซึม เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นหลายแห่งทั้งในประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน หรือแม้แต่ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงเปรียบเทียบกับดัชนีหุ้น SET Index ที่เคยขึ้นไปทำสถิติทั้งจุดปิดสูงสุด และสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์
ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นดังกล่าวยังดำดิ่งมากถึง -506.56 จุด หรือดิ่งลงเหวถึง -27.79% เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,822.66 จุด ส่งผลตลาดหุ้นไทยเข้าภาวะหมี หรือ Bear Market มาอย่างยาวนาน สาเหตุหลากหลาย ได้แก่ เรื่องอื้อฉาวด้านการสร้างปั่นราคาหุ้น การฉ้อโกงของผู้บริหารในบริษัทจำนวนมากในตลาดหุ้นไทย มาตรการในการแก้ไขปัญหากลไกการซื้อขายหุ้นที่อืดอาดและไม่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน ภาวะตลาดหุ้นไอพีโอที่ไม่มีธุระกิจใหม่และเป็นอนาคตที่แตกต่างจากธุรกิจเดิมๆที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในตลาดหุ้นลดต่ำลง สภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวต่ำต่อเนื่องหลังสิ้นสุดโรคโควิด-19 นักลงทุนต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่นในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
โดยดัชนีหุ้นไทยทำสถิติ ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1822.66 จุด และทำสถิติดัชนีหุ้นสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1830.68 จุด ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2561 หรือเมื่อ 7 ปีกว่าที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการซื้อขายสุทธิในวันดังกล่าวมีเกือบ 95,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ความไม่มั่นใจของนักลงทุนจากต่างประเทศยังคงสะท้อนจากการขายหุ้นสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องมาหลายปีรวมถึงปีนี้ โดยพบว่านับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันนี้ 11 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยสุทธิ 93,026 ล้านบาท ย้อนกลับไปในปี 2556 ถึงปี 2566 พบว่า ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิสะสมมากถึง 9.8 แสนล้านบาท ซึ่งมีเพียง 2 ปีเท่านั้นที่มีสถานะเป็นซื้อสุทธิเกิดขึ้นในปี 2559 และปี 2565 นอกนั้นเป็นการขายสุทธิทั้งสิ้น โดยมีมูลค่าขายสุทธิสูงสุดที่ 2.88 แสนล้านบาทในปี 63 และมีการขายสุทธิต่อเนื่องติดต่อกันถึง 5 ปี (60 – 64) ด้วย