ดัชนีหุ้นไทย SET Index วันนี้ปิดต่ำสุดในรอบเฉียด 5 ปี หรือตั้งแต่ 7 เมษายน 2563 (ปิดที่ 1,214.95 จุด) หรือตั้งแต่ก่อนเกิดโรคโควิด-19 ที่ 1,177.44 จุด ลดลง 24.59 จุด หรือ -2.05% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,257.69 ล้านบาท
โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบทั้งวัน ช่วงบ่ายปรับลงแรง โดยทำจุดต่ำสุดที่ 1,177.44 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,196.52 จุด
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,675.67 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
2. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,634.42 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
3. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,627.83 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท ลดลง 4.75 บาท
บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ระบุว่า หุ้นไทยยังปรับตัวลงต่อเนื่องส่วนหนึ่งก็มาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนหดหาย โดยมีปัจจัยต่างประเทศเป็นลบ เศรษฐกิจจีนส่อเค้าชะลอตัว ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด, ตัวเลขดุลการค้า, การบริโภคภายในประเทศ (Domestic Demand) ก็ออกมาไม่ดี ทำให้ไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้มากนัก ขณะเดียวกันตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวกว่าที่คาด จึงเป็น 2 ปัจจัยที่ทำให้มีแรงขายออกมาเพิ่มขึ้น จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มี.ค.) ดัชนีเด้งขึ้นมากจากแรงเก็งกำไรกลุ่ม China play
ทั้งนี้หากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา อาจทำให้ตลาดหุ้นปรับลงต่อเนื่องไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 1,173 จุด ถ้ารับไม่อยู่ก็มีสิทธิสร้าง Low ใหม่ ขณะที่ต่างชาติก็ยังไม่ค่อยชอบหุ้นไทยเท่าไรนัก ดังนั้ นกลยุทธ์ช่วงนี้ขึ้นก็ขายรอลงมาระดับต่ำแล้วค่อยซื้อ จนกว่าจะเริ่มมีสัญญาณขึ้น โดยปัจจุบันเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำ ฉะนั้น กำไรของบริษัทจดทะเบียนก็ไม่ค่อยดี ยิ่งทำให้ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาซื้อ และหันไปซื้อในตลาดหุ้นอื่นที่มีโอกาสเด้ง ดีกว่าหุ้นไทยที่ซึมลงไปเรื่อยๆ พร้อมให้แนวรับ 1,173 จุด แนวต้านที่ 1,186, 1,195 จุด