ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,366.94 จุด ลดลง -29.44 จุด หรือ -2.11% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62,382.11 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงเกือบทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,363.44 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,380.12 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTTEP มูลค่า 4,124.35 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 3.80%
2. CPALL มูลค่า 3,786.05 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 55.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 3.51%
3. SCB มูลค่า 2,834.99 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 106.00 บาท ลดลง 9.50 บาท หรือ 8.23%
นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน จากกลุ่มธนาคารและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงตามตลาดในต่างประเทศที่ดิ่งลงตั้งแต่วันจันทร์จากสงครามในตะวันออกกลาง ดังนั้นเปิดตลาดมาวันแรก หุ้นไทย จึงปรับตัวลดลง ประกอบกับหุ้นธนาคารใหญ่อย่าง SCB และ KTB ขึ้นเครื่องหมายจ่ายปันผล XD จึงทำให้ราคาร่วงตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังปรับตัวลดลงหลังตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีแนวโน้มหั่นดอกเบี้ยเพียง 1-2 ครั้งหรืออาจไม่ลดดอกเบี้ยเลยจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3 ครั้งเริ่มในเดือน มิ.ย. แต่เงินเฟ้อยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมายจึงทำให้คณะกรรมการฯ ชะลอการลดดอกเบี้ยลง รวมทั้ง สงครามในตะวันออกกลาง อาจเข้ามากระทบราคาน้ำมันให้คงตัวอยู่ในระดับสูงซึ่งก็จะทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐและทั่วโลกไม่ลดลง
สำหรับวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวไซด์เวย์ด้วยแนวรับกรอบ 1,350-1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด
