ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,373.33 จุด ปรับลง 3.04 จุด หรือ -0.22% มูลค่าซื้อขาย 42,251.03 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้นลงทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,372.86 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,379.04 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. TRUE มูลค่า 2,023.13 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 8.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 2.94%
2. PTT มูลค่า 2,015.07 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 33.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. KBANK มูลค่า 1,836.13 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.38%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยผันผวนโดยอยู่ในทิศทางปรับฐานเพราะบวกติดต่อกันมาหลายวัน โดยมีประเด็นเรื่องข้อเสนอฟื้นกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) เข้ามาพยุงตลาด
โดยคาดการณ์ว่า LTF จะช่วยให้มีเม็ดเงินใหม่หนุนตลาดหุ้นไทย โดยทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท ที่เข้ามาจะส่งผลต่อดัชนีฯ ราว 20 จุด และคาดว่าวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) ดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวในกรอบ 1,370 – 1,388 จุด
ด้านนายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวออกด้านข้างกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน โดยตลาดตอบรับประเด็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ รวมทั้งประเด็นการลดวงเงินการทำ QT ลงในเดือนมิ.ย.ไปแล้ว
ขณะที่ข้อเสนอฟื้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มองว่าในระยะกลาง-ยาวช่วยจำกัดดาวน์ไซด์ได้พอสมควร และน่าจะช่วยให้เม็ดเงินไหลกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความชัดเจน รวมทั้งเงื่อนไขกองทุน ทั้งนี้ จากที่มีกระแสข่าวเบื้องต้นมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกให้กับตลาดได้บ้าง
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนึ้คาดดัชนีแกว่งออกข้างอิงแดนบวก โดยนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยยอดนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย.ของจีนวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจ รวมทั้งติดตามการทยอยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/67 โดยให้กรอบแนวรับ 1,370 จุดและแนวต้าน 1,385 จุด
