ดัชนี SET หุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ 1,281.81 จุด ปรับขึ้น 9.64 จุด หรือ +0.76% มูลค่าซื้อขาย 33,440.55 ล้านบาท แม้ช่วงบ่ายลดความร้อนแรงลงเพื่อรอติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐคืนนี้ โดยทำจุดสูงสุด 1,294.45 จุดและทำจุดต่ำสุดที่ 1,278.44 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดได้แก่
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,132.53 ล้านบาท ปิดที่ 216.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,756.31 ล้านบาท ปิดที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,442.46 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นไปตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ตอบรับผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรของ NVDIA ดีกว่าคาด และแนวโน้มยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงยอดขายในไตรมาส 4/68 ดีกว่าคาด นอกจากนี้ Outlook ธุรกิจ AI เติบโตที่เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจ ซึ่งตลาดหุ้นเอเชียรับโมเมมตัมจากฝั่งสหรัฐทำให้กลับมาฟื้นขึ้น
แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ตลาดรออยู่คือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย.ที่จะรายงานในคืนนี้ (20 พ.ย.) หากออกมาสูงกว่าคาดที่ 51,000 ตำแหน่ง ก็อาจเป็นการลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะหั่นดอกเบี้ย ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าและบอนด์ยีลด์ดีดตัวขึ้น แต่หากออกมาต่ำกว่าคาดก็จะเป็น Surprise หนุนตลาดหุ้น ทั้งนี้ ตลาดให้น้ำหนักว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้เพียง 30% จากเดิม 90%
ทั้งนี้ แม้หุ้น NVDIA ปรับขึ้นไปมาก แต่ช่วงบ่ายตลาดชะลอความร้อนแรง ขณะที่หุ้น DELTA ราคาปิดเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% เพราะนักลงทุนกังวลว่าตลาดหลักทรัพย์ฯอาจจะขยายเวลาให้ DELTA ใช้เกณฑ์ Cash balance ออกไปจากที่จะสิ้นสุดในวันนี้ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้หุ้น DELTA หลุดดัชนี SET50 ในช่วงกลางปี 69
แนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ ขึ้นกับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ หากไม่ได้ขึ้นไปสูงตลาดหุ้นก็มีโอกาสวิ่งขึ้นไปต่อได้ พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,270 จุด แนวต้านที่ 1,290 จุด
