เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดใจขณะลงพื้นที่เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงเหตุผลที่ลาออกจากตำแหน่งอธิบดีว่า
“ที่ยื่นหนังสือลาออกนั้น ผมตั้งใจทำงานเสมอในระยะเวลาร่วมปีกว่าๆ ที่ผ่านมา แต่เราก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีข่าวว่า อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีเพื่อจะทำให้ปัญหาตรงนี้ดีขึ้น ผมก็โอเค ผมลาออกดีกว่า แต่ตอนนี้ยังมาทำงานอยู่นะ
และตอนนี้ได้ยื่นใบลาออกไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้น้อยใจ แต่ผมคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ไม่ขอพูดว่าเกิดจากแรงกดดันหรือไม่กดดัน แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมยังขอทำงานให้เต็มที่เต็มความสามารถ จนกระทั่งเขาอนุมัติให้ลาออก”
ด้านน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นหนังสือลาออกของนายจุลพงษ์อย่างเป็นทางการ ส่วนการลาออกของนายจุลพงษ์ เป็นเพราะ น.ส.พิมพ์ภัทราไม่พอใจต่อการทำงาน กดดันและต้องการย้ายนายจุลพงษ์ โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้านั้น น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ตนไม่เคยกดดันให้นายจุลพงษ์ลาออก แต่กดดันให้ทุกคนทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะปัญหามีมาทุกวัน วนๆ ซ้ำๆ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้สักที ที่ผานมาเวลาเกิดเหตุการณ์ใดๆ ตนก็จะให้กำลังใจคนทำงานและสอบถามความคืบหน้าไปยังไลน์กลุ่มผู้บริหารโดยตลอด อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้รับรายงานการลาออกของนายจุลพงษ์จากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมต้องเดินหน้าในการเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง รวดเร็ว เพราะปัญหารอไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ย้ำแล้วว่า ทุกคนต้องทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ ตามอำนาจหน้าที่ กระทรวงอุตสาหกรรม ทำงานหละหลวมไม่ได้ ทุกความไม่ปกติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ต้องได้รับการตรวจสอบ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา จะต้องมีคำตอบ เพราะนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลโดยตรงที่จะต้องดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก