นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต้องตกอยู่ในหลายปัญหาใหญ่พร้อมกัน เช่น สภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ธนาคารเข้มงวดการปล่อยกู้ โดยเฉพาะยอดถูกปฎิเสธสินเชื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ยังสูงขึ้น
จากผลสำรวจการขอสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยจากทั้งธนาคารพาณิชย์ และธนาคารรัฐในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ โดยสอบถามจาก 22 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีโครงการรวมทั้งหมด 272 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย พบว่า มียอดปฏิเสธจากธนาคารทุกระดับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ 45% เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 40% สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดถูกปฏิเสธมากสุดที่สุด จะอยู่ในช่วงราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท รองลงมา คืออสังหาริมทรัพย์ช่วงราคา 3-5 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมทั้งสองช่วงราคากลุ่มนี้เข้าด้วยกัน กลายเป็นอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อรวมกันสูงถึง 90%
สาเหตุจากลูกค้าติดเครดิตบูโร ภาระหนี้สูง รายได้ไม่มั่นคง ที่สำคัญ เมื่อลูกค้าถูกปฏิเสธสูงมากขึ้นส่งผลให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไม่รับโอนแต่อย่างใด ทำให้สต๊อกอสังหาริมทรัพย์ที่มีตกค้างกว่า 2 แสนหน่วย ต้องใช้เวลาการขายยาวนานขึ้นเป็น 5-6 ปี ส่งผลกระทบยอดขาย และรายได้ รวมถึงการลงทุนขยายโครงการใหม่ที่ต้องชะลอ หรือยกเลิก ทำให้มีปัญหาขาดสภาพคล่อง
