อินโนเวสท์ เอกซ์ มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัวผันผวน ความไม่แน่นอนยังมีสูง คาดแตะสุด 1,180 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดว่า SET แกว่งตัว อาจมีรีบาวด์สลับขึ้นได้บ้างแต่กรอบบนจำกัด แม้ประเด็นบวกจากรัสเซีย-ยูเครนใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน แต่ประเด็นลบจากการขึ้นภาษียังมีน้ำหนักกดดันมากกว่าหลังจากแคนาดาและ EU ขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 25% วานนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,150 – 1,140 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,170 – 1,180 จุด

โดยช่วงสั้นมอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวบ้าง โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก เช่น สหรัฐฯ อาจเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าบางรายการจากเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่ยังมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน นอกจากนี้เงินเฟ้อจีนและสหรัฐฯ คาดยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและราคาพลังงานที่ลดลง และน่าจะทำให้เฟดยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงิน ส่วนปัจจัยในประเทศยังติดตามเสถียรภาพทางการเมือง การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐ การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนใน เม.ย. และเงื่อนไขของการโอนย้ายเม็ดเงินกองทุน LTF เป็น ThaiESGX ซึ่งจะทำให้ตลาดมีแรงขายลดลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่
•CPI สหรัฐฯ ก.พ. ขยายตัว 2.8%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าตลาดคาด บ่งชี้ความต้องการใช้น้ำมันยังแข็งแกร่ง
•ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.พ. เพิ่มขึ้นสู่ 93.4 หนุนจาก กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย, ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง
•บอร์ด กสทช. ชะลอประมูลคลื่นและทบทวนวิธีประมูลและราคาขั้นต่ำ เพื่อป้องกันการสมยอมราคาหลังเหลือผู้ให้บริการเพียง 2 ราย คาดว่าจะสามารถจัดการประมูลได้ทันกรอบเวลาเดิมในวันที่ 17-18 พ.ค. 2568
•แอตต้าคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 จะทำได้ 37 ล้านคน เทียบเท่าปีก่อนที่ 35.54 ล้านคน ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่มีปัจจัยลบอยู่มาก ทำให้จำนวนเป้าหมายของรัฐบาลที่ 39 ล้านคน ยากเกินไป
•ติดตาม กกร. เข้าหารือนายกฯ ในช่วงบ่ายวันนี้ถึงมาตรการรับมือนโยบายทรัมป์ 2.0 และเสนอมกำหนดสัดส่วนสินค้าผลิตจากผู้ผลิตไทยเพิ่มเป็น 50% จาก 15% และป้องการสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้าไทย
•ตลท. เผยประเภทสินทรัพย์ที่ ThaiESGX ลงทุนได้จะต้องเข้าเกณฑ์ 1 ใน 3 ข้อ ต่อไปนี้ 1) มี SETESG Rating หรือเรทติ้งที่สากลยอมรับ เช่น FTSE หรือ MSCI, 2) เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซฯ เรือนกระจก และได้การรับรองจาก อบก. หรือ 3) มีการสำรวจการกำกับดูแลกิจการ (CGR) เกิน 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูลเกิน 85% และได้เผย 14 บจ. ที่ SETESG Rating เป็น Non-rating แต่เข้าเกณฑ์ข้างต้น AYUD BCP CHG CPNREIT ERW GLAND METCO PPP RCL SUSCO TIDLOR TMI TRP TRUE

ทั้งนี้ มอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง หนุนจากความคาดหวังจากปัจจัยภายนอกและรัฐบาลไทยมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1.หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน เลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) กำไรปี 2568 คาดเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Int. Cov. Ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield อย่างน้อย 2% และ 5) SETESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG
2.หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปี และ SETESG Rating ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield เกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ผลประกอบการปี 2568 ยังแข็งแกร่งและยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
3.หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนกำไร 1Q68 ที่คาดจะเติบโต YoY และ QoQ และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
4.Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากงาน Opp. Day ซึ่งคาดจะมีโทนประชุมเป็นบวกในสัปดาห์นี้และเราดูแลอยู่อย่าง AU TIDLOR BTG PTG

หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ BBL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป็นเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SETESG Rating ระดับ AAA และเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจากมีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด สินเชื่อเติบโตมากที่สุด ความเสี่ยงเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ Valuation ถูกที่สุดในกลุ่ม และจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 6.50 บาท (XD 23 เม.ย.) คิดเป็น Div. Yield 4.4% CPALL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SETESG Rating ระดับ AAA กำไร 1Q68 คาดเติบโต YoY แรงหนุนจาก SSS และมาร์จิ้นที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนกำไรปี 2568 จะเติบโตดีเป็นอันดับสองในกลุ่มพาณิชย์ที่ 16% โดยการเติบโต 11% จะมาจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และ 5% มาจาก CPAXT

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles