เฮิร์ทส (Hertz) คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบริการบริการรถเช่าชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นายสตีเฟ่น เชอรร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฮิร์ทส จะลงจากตำแหน่งซีอีโอภายในสิ้นเดือนนี้ หลังจากเข้าบริหารมาเป็นเวลา 2 ปี โดยจะมีการแต่งตั้งนายจิล เวสท์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ส และเจนเนอรัล มอเตอร์ เข้ารับตำแหน่งซีอีโอแทน การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งซีอีโอดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 5 ภายใน 4 ปีผ่านมา
ในขณะที่ไตรสาสล่าสุด พบว่า รายได้ของเฮิร์ทสได้รับผลกระทบมากถึง 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,820 ล้านบาท เป็นผลจากราคารถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีที่เฮิร์ทสขายออกไปตามนโยบายลดการใช้งานรถอีวีนั้น มีราคาตกต่ำอย่างมาก เนื่องจากสงครามลดราคาของแบรนด์รถอีวีอย่างเทสลาในช่วง 1 ปีผ่านมา ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดราคารถอีวีมือสองร่วงตกต่ำอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการขายรถอีวีของเฮิร์ทสด้วย
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ผ่านมา เฮิร์ทส (Hertz) เปิดเผยว่า ยกเลิกสัญญาการซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีกับบริษัทผลิตรถอีวีแบรนด์โพลสตาร์ (Polestar) จำนวน 65,000 คัน จากสวีเดนภายใน 5 ปี รวมเป็นมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 108,000 ล้านบาท
สาเหตุจากตลาดรถอีวีทั้งรถใหม่ และรถมือสองล้วนเผชิญปัญหาราคาขายตกต่ำจากการใช้กลยุทธ์ลดราคาของค่ายรถอีวี นอกจากนี้ ตลาดรถอีวีในสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงอย่างมากและต่อเนื่องจากผลกระทบของสภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่หดตัวลง อัตราดอกเบี้ยหรือต้นทุนการเงินที่อยู่ในระดับสูง และค่ายผลิตรถอีวีในสหรัฐอเมริกาตัดสินใจลดการผลิตรถอีวีลงอย่างชัดเจน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2024 เฮิร์ทสประกาศปลดการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีออกจากฝูงบริการรถเช่ามากเป็นจำนวนถึง 20,000 คัน หรือโล๊ะรถอีวีออกมากถึง 1 ใน 3 หรือกว่า 33% ของจำนวนรถอีวีที่ให้เช่าทั่วโลกของเฮิร์ทสหลังจากผ่านมาครบ 2 ปี โดยรายได้จากการรถอีวีทั้งหมด 20,000 คัน จะนำกลับไปซื้อรถยนต์เครื่องสันดาป หรือรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกลับเข้ามาทดแทนในฝูงรถให้บริการของเฮิร์ทส
สาเหตุจากลูกค้าจำนวนมากมายที่ใช้บริการรถเช่าทั้งรายวัน รายเดือน และระยะยาวสำหรับองค์กร ล้วนไม่ต้องการและไม่สนใจเช่ารถอีวีอีกต่อไป นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเมื่อเกิดอุบัติเหตุชนกัน หรือเกิดความเสียหายชำรุดของชิ้นส่วนและอะไหล่ตามเวลาผ่านไปนั้นมีต้นทุนรวมสูงมากทั้งๆ ที่มีบริการประกันรถอีวีครอบคลุม
ที่สำคัญ ถึงแม้ว่าบริษัทเฮิร์ทสจะประสานงานกับค่ายรถอีวีให้มีการใช้ซอฟท์แวร์ทำการจำกัดทั้งแรงม้า และความเร็วของรถอีวีที่ให้เช่า รวมถึงมีการนำเสนอการแนะนำการใช้รถอีวีให้กับลูกค้าทั้งที่ขับรถเป็น และมือใหม่ก็ตาม แต่ปรากฎว่า จำนวนการเกิดอุบัติเหตุรถอีวีที่บริษัทฯให่เช่าไม่ว่าจะเป็นการชนทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวรถยังคงเกิดขึ้น
เว็บไซต์เฮิร์ทสได้ประกาศขายรถอีวียี่ห้อเทสลาหลากหลายรุ่นและสี ซึ่งอยู่ในโครงการโล๊ะการใช้งานออกเป็นจำนวน 20,000 คัน โดยมีราคาประกาศขายต่ำสุดเหลือแค่คันละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าตันละ 700,000 บาท ก่อนหน้านี้ มีราคาขายต่ำกว่าคันละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต่ำกว่าคันละ 700,000 บาทด้วย เฮิร์ทส เปิดเผยต่อไปว่า รายได้และค่าเสื่อมจากการขายรถอีวีจำนวนทั้งหมด 20,000 คัน คิดเป็น คิดเป็นจำนวน 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,575 ล้านบาท จะถูกบันทึกในไตรมาส 4 ปีนี้
อย่างไรก็ตาม นายสตีเฟ่น เชอรร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฮิร์ทส กล่าวว่า จะยังคงรักษานโยบายการบริหารจัดการจำนวนรวมของรถอีวีในฝูงรถที่ให้บริการเช่า รวมถึงการจัดแบ่งรถอีวีให้เช่าไปตามกลุ่มประเภทลูกค้า และการใช้งานที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2023 ผ่านมา เฮิร์ทสมีสัดส่วนของรถอีวีให้เช่าอยู่ที่ 11% ของฝูงยานยนต์ทั้งหมดรวมทั้งรถยนต์เครื่องสันดาปด้วย โดยเฉลี่ยแล้วมีรถยนต์ทั้งรถอีวีและรถยนต์เครื่องสันดาปรวมกัน 590,000 คันเมื่อไตรมาสที่ 3 ในปีผ่านมา
ทั้งนี้ ในปี 2021 เฮิร์ทสเคยประกาศว่าจะลงทุนในการจัดหาซื้อรถอีวียี่ห้อเทสลาจำนวน 100,000 คัน มาเสริมในฝูงรถเช่าทั้งในสหรัฐและต่างประเทศที่เฮิร์ทสเปิดบริการ ปัจจุบัน เฮิร์ทสมีรถอีวี 2 ยี่ห้อที่ให้บริการเช่า ได้แก่ เทสลา และโพลสตาร์ซึ่งเป็นแบรนด์รถอีวีจากสวีเดน