ฮอนด้า มอเตอร์ เปิดเผยว่า เตรียมแผนการลงทุนมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านเยน หรือ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.4 ล้านล้านบาท เพื่อการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวีรวมถึง การพัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์ภายใน 10 ปีข้างหน้าจากนี้ไป ซึ่งจะสิ้นสุดในปีงบประมาณเดือนมีนาคม 2031 การประกาศตัวเลขลงทุนจำนวนมหาศาลดังกล่าวนั้น เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากตัวเลขเดิมที่ประกาศไว้ในปี 2022 และยังเป็นการเร่งการพัฒนารถอีวีอีกด้วย
นายโตชิฮีโร่ มิเบะ ประธาน ฮอนด้ามอเตอร์ เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนที่ฮอนด้าได้ประกาศเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานั้นไม่เพียงพอ ฮอนด้ามีความมั่นใจสูงมากใน ในความสามารถที่จะจัดหาเงินงบประมาณดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าฮอนด้ามีผลประกอบการด้วยผลกำไรที่สูงจากยอดขายที่แข็งแกร่งของรถยนต์ประเภทเครื่องไฮบริด เนื่องจากในสิ้นปีงบประมาณเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านไปนั้น ฮอนด้า มอเตอร์ กรุ๊ป มีผลการดำเนินงานที่เป็นผลกำไรจากการปฎิบัติการสูงถึง 77% ที่ 1.38 ล้านล้านเยน หรือกว่า 324,300 ล้านบาท ส่งผลให้นับเป็นครั้งแรกที่ฮอนด้า มอเตอร์ มีผลกำไรสูงเกิน 1 ล้านล้านเยน และยังทำสถิติผลกำไรที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกในรอบ 16 ปีที่ผ่านมา
ประธาน ฮอนด้ามอเตอร์ ชี้แจงว่าวงเงินลงทุน 10 ล้านล้านเยน หรือกว่า 2.4 ล้านล้านบาทนั้น แบ่งเป็น 6 ล้านล้านเยน หรือกว่า 1.41 ล้านล้านบาท ใช้ในการผลิตรถอีวี นั่นหมายถึงใช้ในการก่อสร้างโรงงานผลิตรถอีวี และพัฒนารถอีวีรุ่นใหม่หลายๆ รุ่น และในส่วนที่เหลืออีก 2 ล้านล้านเยนนั้น หรือกว่า 990,000 ล้านบาท ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับรถอีวี และแบตเตอรี่ไฟฟ้า
สำหรับแผนระยะยาวในการลงทุนและการผลิตรถฮอนด้านั้น ภายในปี 2030 ฮอนด้าเตรียมผลิตรถอีวีปีละ 2 ล้านคัน ประกอบด้วย 750,000 คันในแต่ละตลาดทั้งจีน และอเมริกาเหนือ ส่วนที่เหลืออีก 500,000 คันสำหรับตลาดในภูมิภาคอื่นๆของโลก ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น เอเชียและยุโรป นอกจากนี้ฮอนด้าเตรียมลงทุน 15,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 407,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบซัพพลายที่เกี่ยวข้องกับรถอีวีในประเทศแคนาดา ซึ่งรวมถึงการสร้างเครือข่ายการผลิต วัตถุดิบแบตเตอรี่ไฟฟ้า
ฮอนด้ามอเตอร์ยังเตรียมที่ตัดลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าลงถึง 20% จากต้นทุนในปัจจุบันภายในช่วงครึ่งหลังของยุคทศวรรษ 2020 นี้ นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะลดต้นทุนการผลิต ได้ถึง 35% ด้วยการทุ่มเทอย่างจริงจังในการก่อสร้างโรงงานผลิตผลิตรถอีวี ในช่วงอนาคตอันใกล้นี้ ส่งผลให้ฮอนด้าสามารถกำหนดราคาที่แข่งขันได้
สำหรับในปีงบประมาณปัจจุบันนี้ ฮอนด้า มอเตอร์ เตรียมเม็ดการลงทุน 1.1 9 ล้านล้านเยน หรือ 7,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 281,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเม็ดเงินการลงทุนที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ภายในหนึ่งปีงบประมาณของฮอนด้า มอเตอร์ เพื่อเป้าหมายในสายงานพัฒนาและวิจัย ที่จะเร่งพัฒนารถยนต์พลังงานพลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี เพื่อที่ฮอนด้าจะสามารถตามทันแบรนด์รถอีวีชั้นนำ เช่น เทสลา และแบรนด์รถอีวีจีน การประกาศงบประมาณในส่วนของงานวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ ไม่เพียงคิดเป็นงบประมาณที่เพิ่มขึ้นถึง 23% ใน 1 ปี แต่ยังเป็นงบประมาณที่สูงกว่า 1 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรกของบริษัทด้วย ที่สำคัญ งบประมาณจำนวนมากมายดังกล่าวนี้ให้น้ำหนักกับรถอีวี