นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย หรือแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ทว่าก็มีจังหวะอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 32.36-32.48 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกันของทั้งเงินดอลลาร์และ ราคาทองคำ (XAUUSD) โดยรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ จากทาง BLS ล่าสุด สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน ที่มีความผสมผสาน แม้ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) จะเพิ่มขึ้น 1.19 แสน ราย ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้เพียงราว 5 หมื่นราย
อย่างไรก็ตาม มีการปรับลดยอดการจ้างงานฯ ที่ประกาศในเดือนก่อนหน้า (ทำให้โดยรวมการจ้างงานของสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มชะลอลง) ส่วนอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) แม้จะปรับตัวสูงขึ้น สู่ระดับ 4.44% แย่กว่าที่ตลาดคาด 4.3% แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงาน (Participation Rate) ที่สูงขึ้นสู่ระดับ 62.4% ซึ่งภาพดังกล่าว ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาด รวมถึงบรรดานักวิเคราะห์ต่างก็มีมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธันวาคม โดยตลาดมองเฟดอาจจะขาดการรับรู้ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน ที่จะทยอยประกาศในวันที่ 16 ธันวาคม หลังการประชุม FOMC เดือนธันวาคม ทำให้ เฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมไปก่อน สอดคล้องกับ โอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม ที่ยังต่ำกว่า 40% ขณะเดียวกันมองว่า เฟดอาจเลื่อนการลดดอกเบี้ย ไปยังการประชุมเดือนมกราคมได้ ทำให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง ในปี 2026 และยังเผชิญความผันผวนจากราคาหุ้นกลุ่มเทคฯ โดยเฉพาะกลุ่มธีม AI/Semiconductor หลังราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าว พลิกกลับมาปรับตัวลงหนัก จากที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงแรกของการซื้อ ขาย ตอบรับผลประกอบการของ Nvidia ที่ดีกว่าคาด
แนวโน้มค่าเงินบาทมองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.35-32.50 บาทต่อดอลลาร์ กรุงไทยมองว่า เงินบาท (USDTHB) อาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะสามารถทยอยอ่อนค่าลด ทดสอบโซนแนวต้านแถว 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในจังหวะที่บรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง จากแรงขายหุ้นธีม AI/Semiconductor ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็อาจเผชิญแรงกดดันได้ไม่ยากและมีโอกาสที่จะเห็นแรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติมได้