นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 33.75 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 33.79 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.30-34.25 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.85 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 33.64-33.80 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทมีจังหวะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ซึ่งยังคงได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องก็ตาม
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง ตามการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน รวมถึงการทยอยขายเงินดอลลาร์ใกล้โซนแนวต้าน 33.85 บาทต่อดอลลาร์ จากฝั่งผู้ส่งออก (Exporters)
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท เราคงเชื่อว่า เงินบาทมีแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลง ทว่าการอ่อนค่าก็อาจค่อยเป็นค่อยไป หากราคาทองคำยังมีจังหวะปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งนอกเหนือจากทิศทางเงินดอลลาร์และราคาทองคำ ควรจับตาทิศทางสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) รวมถึงเงินหยวนจีน (CNY) อนึ่งเงินบาทอาจยังคงถูกกดดันจากแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ และแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนจากบรรดาผู้นำเข้า (Importers)
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่าเงินดอลลาร์อาจเผชิญความผันผวน Two-Way Volatility โดยเงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่าโดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งและความต้องการถือเงินดอลลาร์ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กลับมาร้อนแรงขึ้น แต่เงินดอลลาร์ก็อาจถูกกดดันได้พอสมควร หากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาดไปมาก