เงินบาทวันนี้ ทรงตัว จากราคาทองคำปรับขึ้น แต่ตลาดบางส่วนทยอยเพิ่มสถานะ Long USD ในจังหวะเงินดอลลาร์ย่อตัวลง และ เงินเยนอ่อนค่า

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.80-34.15 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.92-34.06 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้นเข้าใกล้โซน 33.90 บาทต่อดอลลาร์ ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้บรรดาธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน World Economic Forum ซึ่งแม้อาจจะไม่ได้มีการกล่าวถึงเฟดโดยตรง แต่ก็อาจสะท้อนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ยังคงต้องการให้เฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย เหมือนที่เคยกดดันเฟดในช่วงรัฐบาล Trump 1.0 โดยสุนทรพจน์ดังกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ที่ออกมาแย่กว่าคาด ได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ เป็น 62%

นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) ตามจังหวะการปรับตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทยังคงไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องหลุดโซน 33.90 บาทต่อดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างก็รอทยอยเพิ่มสถานะ Long USD ในจังหวะเงินดอลลาร์ย่อตัวลง เพื่อรับมือความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล Trump 2.0 อีกทั้งผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็เริ่มปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก่อนรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้เงินเยนญี่ปุ่นพลิกกลับมาอ่อนค่าลงเหนือโซน 156 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง

แนวโน้มเงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้น หรืออย่างน้อยก็อาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways เมื่อประเมินตามกลยุทธ์ Trend Following ตราบใดที่เงินบาทไม่ได้กลับมาอ่อนค่าลงชัดเจน เหนือโซน 34.20-34.30 บาทต่อดอลลาร์ ระหว่างนี้เงินบาทก็อาจแกว่งตัวในลักษณะ Sideways ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุม BOJ และถ้อยแถลงของผู้ว่าฯ BOJ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles