นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.66 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 35.52-35.66 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านระยะสั้นของราคาทองคำ (XAUUSD)
อย่างไรก็ดี เงินบาทยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องหลุดโซนแนวรับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ หลังบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) กดดันโดยแรงขายบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ตามการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จนเกือบแตะระดับ 4.00% โดยภาพดังกล่าวได้หนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์แข็งค่าขึ้นบ้าง ขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็พลิกกลับมาปรับตัวลดลงกลับสู่โซนแนวรับ 2,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันค่าเงินบาท
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นมีกำลังมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากในวันก่อนหน้าที่เงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 35.65 บาทต่อดอลลาร์ ที่ประเมินไว้ได้ โดยเฉพาะในช่วงหลังตลาดรับรู้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคก้าวไกล (มติเอกฉันท์ ให้ยุบพรรคก้าวไกล) ทำให้ประเมินว่า ในเชิงเทคนิคคัลนั้น สำหรับ Time Frame Daily ค่าเงินบาท (USDTHB) อาจเกิดรูปแบบ Bullish Reversal Pattern สะท้อนโอกาสที่จะทยอยผันผวนอ่อนค่าลงได้ สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทสามารถทยอยอ่อนค่าลงได้บ้าง (Sell on Rally) นอกจากนี้ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนจากการทยอย Unwind JPY Carry Trade หรือ สถานะ Short JPY (มองเงินเยนอ่อนค่า) เพิ่มเติม หลังเงินเยนญี่ปุ่นได้ผันผวนอ่อนค่าลงเกือบแตะระดับ 148 เยนต่อดอลลาร์ ตามถ้อยแถลงของทางธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่สะท้อนว่า BOJ จะระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงินมากขึ้น โดยแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากความปั่นป่วนในตลาดการเงิน ได้ส่งผลกระทบต่อคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงและโอกาสที่ BOJ จะบรรลุคาดการณ์ดังกล่าว โดยในช่วงเช้านี้ เราเห็นการทยอยลดสถานะ Short JPY หรือ Unwind JPY Carry Trade ของผู้เล่นในตลาดเพิ่มเติม ส่งผลให้ เงินเยนญี่ปุ่นทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นต่ำกว่าโซน 146 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง กดดันให้เงินดอลลาร์ผันผวนอ่อนค่าลง ดังนั้น ความผันผวนของค่าเงินเยนในช่วงนี้ ก็อาจส่งผลกระทบมายังค่าเงินบาทได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม แม้เงินบาทอาจมีจังหวะแข็งค่าขึ้นได้บ้างจากปัจจัยข้างต้น ทว่า การแข็งค่าก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน โดยเบื้องต้น เราคงประเมินโซนแนวรับเงินบาทแถว 35.50 บาทต่อดอลลาร์ และหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้จริง สวนทางกับที่เราประเมินไว้ ก็อาจแข็งค่าทดสอบโซน 35.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้