เงินบาทวันนี้ขยับแข็งค่าเล็กน้อย ตามราคาทองคำดีดขึ้น คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-33.90 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท เปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.74 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.90 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ)

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 33.70-33.83 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการทยอยปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ท่ามกลางภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด และแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ กับแคนาดา

อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์ยังพอมีจังหวะทยอยแข็งค่าขึ้น ตามรายงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) ที่ออกมาราว 7.74 ล้านตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าและสูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการทยอยอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะ เงินดอลลาร์แคนาดา (CAD) จากความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดา

กรุงไทยประเมินว่า ในช่วงระหว่างวันก่อนที่ตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เงินบาท (USDTHB) อาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อนได้ โดยเงินบาทอาจพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง ตราบใดที่ราคาทองคำยังคงสามารถทยอยปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง ทว่า เงินบาทก็อาจยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ชัดเจน ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์แข็งค่าขึ้นได้บ้าง หรืออย่างน้อยก็แกว่งตัว Sideways นอกจากนี้ เราประเมินว่า บรรดาผู้นำเข้าก็อาจรอทยอยซื้อเงินดอลลาร์อยู่ ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท อีกทั้ง บรรดานักลงทุนต่างชาติก็อาจยังคงทยอยขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทยได้บ้าง จนกว่าบรรยากาศในตลาดการเงินจะกลับมาเปิดรับความเสี่ยง ทำให้เงินบาทอาจพอมีโซนแนวรับแถว 33.60-33.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ โซนแนวต้านของเงินบาทก็อาจยังคงอยู่แถว 33.90-34.00 บาทต่อดอลลาร์ แต่หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 34.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน เรามองว่า เงินบาทอาจกลับมาอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงได้ ตามการประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles