นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ภายหลังการเข้ารับตำแหน่ง จะมุ่งวิสัยทัศน์ในการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตในศูนย์การค้าที่แตกต่าง ร่วมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม สอดรับการเป็นศูนย์การค้าที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุด 24 จังหวัดทั่วประเทศไทย พร้อมมีผู้เช่ากว่า 5,000 ราย ลูกค้ากว่า 100 ล้านคนต่อปี อีกทั้งมุ่งสร้างการเติบโตควบคู่ไปกับชุมชนอย่างยั่งยืนในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายของ เซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น “Central to Life ศูนย์กลางชีวิตของทุกคน”
ทั้งนี้ได้วางแนวทางยกระดับ ecosystem ของศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ให้แข็งแกร่ง ด้วยกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจ หลัก 3 ด้าน ได้แก่
– COMPLETE LIFESTYLE DESTINATION ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของกลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่กับการเป็น “EAT-SHOP-PLAY” จุดหมายปลายทางที่ครบทุกด้าน ทั้งมุ่งยกระดับเป็นศูนย์กลางในการใช้ชีวิต มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งกลุ่ม Food Lover, กลุ่ม Modern Family, กลุ่ม Pet Lover และกลุ่ม Tourist Destination มุ่งสร้างประสบการณ์พิเศษ รวมถึงแผนคอลแลปกับศิลปินระดับโลก พร้อมเริ่ม Roll Out ในสาขาแฟลกชิปสโตร์ ทั้งตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสร้างประสบการณ์ใหม่ในศูนย์การค้า อีกทั้งมีจัดอีเวนต์กว่า 52 อีเวนต์ครอบคลุม 27 สาขา
สร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในทุกพื้นที่ ร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วย Night Walking Street, ลานนั่งเล่น, แฮงก์เอ้าท์ เพื่อให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ครบวงจร
พัฒนาปรับปรุงสาขา โดยมีแผนการรีโนเวทสาขาทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าทั้งหมด 14 สาขา รวมถึงมีแผนปรับโฉมครั้งใหญ่ 5 สาขา ได้แก่ สระบุรี, กาญจนบุรี, สมุทรปราการ, ราชบุรี และสุรินทร์ ซึ่งแนวทางการออกแบบศูนย์การค้าด้วยงานศิลป์ตกแต่งเพิ่มความสดใสและการใช้ชีวิตที่แตกต่างภายในศูนย์การค้า ร่วมดึงดูดคนรุ่นใหม่ต่อยอดธุรกิจและสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มครอบครัว วางเป้าขยายธุรกิจ SUNDAY สวนสนุกเด็กในร่ม พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ไปยังสาขาของศูนย์การค้าทั่วไทย รวมถึงศูนย์อาหาร Food Park มีแผนรีโนเวท จำนวน 10 สาขา รวมถึงดึงร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังและร้านค้าดังของแต่ละพื้นที่ พร้อมสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ในพื้นที่ของศูนย์การค้าหลายสาขา เช่น Outdoor Mall และ Strip Mall ซึ่งเป็นพื้นที่การเดินช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยม เตรียมต่อยอดธุรกิจในอนาคต
– INCLUSIVE GROWTH FOR PARTNERS มุ่งเชื่อมโยงการทำธุรกิจของคู่ค้าที่ครบวงจรแบบ B2B2C ร่วมกับการเสริมกำลังด้านบุคลากรและรูปแบบการทำงานร่วมกับพันธมิตรร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำ ทั้งนำเสนอ Total Solutions แก่ร้านค้าแบบครบวงจร ร่วมมือกับพันธมิตรชั้น มุ่งสร้าง Business Success ให้แก่ร้านค้าและสนับสนุนครบวงจร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ การขยายธุรกิจใหม่ ให้การสนับสนุนแบรนด์กลุ่มใหม่ๆ ที่กำลังมาแรง อาทิ สุกี้ตี๋น้อย, โอ้กะจู๋, Shinkanzen Sushi เข้ามาอยู่ในศูนย์การค้า การสนับสนุนธุรกิจในพื้นที่และกลุ่ม Startup ร่วมเปิดพื้นที่ให้เจ้าของธุรกิจเอสเอมอี และกลุ่ม Startup ในแต่ละพื้นที่ได้มีโอกาสเข้ามาออกร้านในศูนย์การค้า เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้โตยั่งยืน
– CREATE SUSTAINABLE COMMUNITY มุ่งสร้างศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ ทั้งด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจในชุมชน และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ดีที่เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นศูนย์กลางของแต่ละจังหวัด ได้แก่ การเป็นศูนย์กลางการศึกษาของชุมชน โดยร่วมมือสถาบันการศึกษา เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและเสริมทักษะของเยาวชนในด้านต่างๆ รวมถึงกิจกรรม CSR
การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน ส่งเสริมสร้างรายได้ในชุมชน โดยสนับสนุนการจัดจ้างแรงงาน การเปิดพื้นที่สำหรับจัดจำหน่ายสินค้าร่วมกับชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
ทั้งนี้แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจศูนย์การค้าสู่การเติบโตแบบยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืน ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ
ทั้งนี้แนวทางดำเนินการที่ผ่านมา ในปี 2560 – มีนาคม 2567 มีทั้งติดตั้ง Solar Rooftop ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์แล้วจำนวน 25 สาขา รวมพื้นที่ 48.89 เมกะวัตต์ ร่วมลดค่าใช้จ่ายถึง 538 ล้านบาท ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 73,145.48 Ton CO2 โดยภายในปี 2567 มีเป้าหมายติดตั้ง Solar Rooftop 7 เมกะวัตต์ เพิ่มใน 8 สาขา ได้แก่ ปราจีนบุรี, มุกดาหาร, บุรีรัมย์, แม่สอด, เพชรบุรี, ชัยภูมิ, บ่อวิน, ถลาง เป็นต้น เพื่อประหยัดพลังงานได้ 65.932 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ประหยัดค่าไฟฟ้าเป็นเงิน 255.74 ล้านบาท ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 32,306,675 Ton CO2 สอดรับนโยบายของ เซ็นทรัล รีเทล ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593
อย่างไรก็ตาม สำหรับโปรไฟล์การทำงานของซีอีโอคนใหม่อายุ 52 ปี ได้ทำงานร่วมงานกับกลุ่มเซ็นทรัล ทั้งเซ็นทรัลพัฒนา และเซ็นทรัล รีเทล มาอย่างยาวนาน ซึ่งย้อนกลับไปในปี 2555–2561 เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ต่อมาย้ายมาดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารทรัพย์สิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ล่าสุดรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ดูแลศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์