นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 มีการฟื้นตัวไม่หวือหวามากนัก แต่หากพิจารณาจากดีมานด์ของกลุ่มผู้บริโภคแล้ว อสังหาฯ แนวราบโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากปัจจัยของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้บริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายการพัฒนาโครงการใหม่ๆ อาทิ โซนพุทธมณฑล, บางแค–สาทร, บางกรวย เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเพิ่มโอกาสการต่อยอดในการสร้างยอดขายของบริษัทฯให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2567 รวม 6 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 4,632 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เพิ่มขึ้น 35-50% จากโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงโครงการเดิมที่ยังคงทยอยรับรู้ต่อเนื่อง
สำหรับโครงการใหม่จะเริ่มดีเดย์เปิด Pre-Sale ตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป ได้แก่ โครงการ สิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค–สาทร) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ European Luxuries จำนวนบ้านในโครงการ 29 หลัง แบ่งเป็นบ้านไซต์ L จำนวน 9 หลัง และ ไซต์ XL จำนวน 12 หลัง รวม 29 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดยมีราคาเริ่มต้นที่ระดับ 13.90 ล้านบาท
โครงการสิวารมณ์ไฮด์ (พุทธมณฑล สาย 3) รูปแบบบ้านเดี่ยวสไตล์ Art Deco จำนวน 31 หลัง แบ่งเป็นบ้านไซต์ M1 จำนวน 17 หลัง และบ้าน M2 จำนวน14 หลัง รวม 31 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการ 422 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 12.90 ล้านบาท
โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส บางปู 104 (บางปู 104) ภายใต้รูปแบบบ้าน 3 ประเภท คือบ้านแถว บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว สไตล์ Bergen Norway จำนวนบ้าน 488 หลัง แบ่งเป็นบ้านแถว TH5 จำนวน 232 หลัง บ้านแถว TH5.40 จำนวน 141 หลัง บ้านแฝด SDH จำนวน 108 หลัง และบ้านเดี่ยว DH จำนวน 7 หลัง ซึ่งคิดเป็นมูลค่าโครงการ 1,453 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวดำเนินงาน ภายใต้ บริษัท สิวารมณ์ พลัส แลนด์ จำกัด ซึ่ง SVR ถือหุ้น 60% และกลุ่มพุทธพรมงคล ถือหุ้น 40% และถือเป็นโครงการแรกหลังจากที่มีการร่วมทุน
และโครงการแกรนด์สิวารมณ์ 2 (สุขุมวิท–บางปู) ในลักษณะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Art Deco จำนวน 254 หลัง แบ่งเป็นแบบบ้าน S+ จำนวน 105 หลัง แบบบ้าน M+ จำนวน 84 หลัง แบบบ้าน L+ จำนวน 65 หลังมูลค่าโครงการ 1,438 ล้านบาท พื้นที่ 254 ยูนิต โดยมีราคาเริ่มต้น 4.5–7.0 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการจากปีก่อนที่เลื่อนมาเปิดในปีนี้และสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่มกราคม 2567 เป็นต้นไป รวมทั้งยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องอีก 5 โครงการ ขณะเดียวกัน SVR มีบ้านคงเหลือเพื่อการขายประมาณ 1,200 ล้านบาท รองรับการเจริญแบบก้าวกระโดด (High Growth) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้รวม 11 โครงการ โดยจะทยอยรับรู้ถึงปี 2568–2569 ซึ่งทุกโครงการเป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย ดังนั้นจึงไม่มียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog)