นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าแตะ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม แรงเทขายเงินบาทมีอย่างหนาตา ส่งผลเงินบาทร่วงลงต่ำสุดที่ระดับ 34.61 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
สาเหตุที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามแรงขายสกุลเงินเอเชียในภาพรวมวันนี้ พบว่าเป็นผลมาจากสัญญาณธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ส่งสัญญาณชัดเจนที่จะปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นน้อยลงในปี 2025 ในคืนผ่านมา แม้ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่กรอบ 4.25-4.50% ตามที่ตลาดคาด แต่ประธานเฟด เปิดเผยว่า มีการปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อในปีหน้า จึงสะท้อนว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกด้วยเช่นกัน
นับตั้งแต่ช่วงเช้าในวันนี้เป็นต้นมา ค่าเงินในเอเชียล้วนถูกเทขายอย่างคึกคัก เริ่มจากตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รายงานว่า ค่าเงินวอนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐมีค่าอ่อนลงลึกมาแตะที่ระดับ 1,453.00 ต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงมากถึง 0.96% ส่งผลทำสถิติค่าเงินวอนเกาหลีใต้อ่อนค่าต่ำสุดในรอบมากกว่า 15 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ มีนาคม 2009 นับตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2024 ค่าเงินวอนเกาหลีใต้เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐพบว่าอ่อนค่าลงไปแล้ว 3.9% ส่งผลกลายเป็นค่าเงินวอนเกาหลีใต้ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องเกือบ 3 เดือนติดต่อกัน
ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2024 ค่าเงินวอนเกาหลีใต้ร่วงลงหนักถึง 11% กลายเป็นสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในเอเชีย จากนี้มีแนวโน้มที่จะทำสถิติค่าเงินวอนเกาหลีใต้ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจการเงินล้มในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008 หรือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
ด้านตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย หรือตรงกับเวลา 11.20 น.เวลาไทย รายงานว่า ค่าเงินรูปีอินเดียเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐมีค่าอ่อนลงลึกมาแตะที่ระดับ 85.0663 ต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.1% ส่งผลทำสถิติค่าเงินรูปีอินเดียอ่อนค่าต่ำสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ยังหลุดระดับ 85 ต่อดอลลาร์สหรัฐด้วย