เวิร์ลพูล ผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวนมากถึง 1,000 คน เพื่อเป้าหมายประหยัดค่าใช้จ่ายในปี 2024 นี้ที่ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14,800 ล้านบาท และ ในปีผ่านไปได้ตัดลดค่าใช้จ่ายลงมากถึง 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 29,600 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ เวิร์ลพูล ได้ปลดพนักงานครั้งแรกไปในเดือนมีนาคม ส่วนการปลดครั้งที่ 2 ซึ่งมีจำนวนมากถึง 1,000 คนจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้
นายจิม ปีเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน หรือซีเอฟโอ กล่าวว่า การปลดพนักงานระลอกที่ 2 นี้ จะดำเนินการภายในต้นเดือนพฤษภาคม หรือในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า นอกจากนี้ ยังคงยึดตามนโยบายการตัดลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานออกจากบริษัท ทำให้จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในครั้งเดียวจากการจ่ายชดเชยและอื่นๆ ที่ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,850 ล้านบาทในปีนี้ ทั้งนี้ เวิร์ลพูล มีพนักงานทั่วโลกราว 59,000 คนซึ่งเป็นตัวเลขสิ้นสุดเมื่อปลายปี 2023 ที่ผ่านมา
สาเหตุในการตัดลดค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เป็นผลจากการแข่งขันในสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รุนแรงและเข้มข้น โดยเฉพาะแบรนด์เครื่อง ใช้ไฟฟ้าจากจีนเช่น มีเดีย(Midea) ที่เสนอขายราคาถูกกว่าท่ามกลางผู้บริโภคที่ตัดลดค่าใช้จ่ายลง และมองหาสินค้าในราคาถูก ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและในตลาดสำคัญยังคงซบเซาอัตราดอกเบี้ยที่สูงในระบบการเงินส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า ก่อนหน้านี้เวิร์ลพูล คาดการณ์ยอดขายในปี 2024 อยู่ที่ 16,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 625,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ยอดขายที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์และตลาดคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 17,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 654,160 ล้านบาท
เวิร์ลพูลได้ประกาศในปีที่ผ่านมาว่าจะขายหุ้น 24% ออกจากบริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศอินเดียซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 75% ของทั้งหมด เนื่องจากต้องการลดภาระหนี้และผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี 2023 โดยเฉพาะผลกำไรทรุดต่ำมากถึง 23.7% ซึ่งตกต่ำกว่าที่คาดไว้ ที่สำคัญ ผู้บริโภคชาวอินเดียหันไปซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีใต้ อย่างเช่น แอลจีเนื่องจากสินค้าของแบรนด์เวิร์ลพูลเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าจากประเทศเกาหลีใต้มีลูกเล่นหรือฟังก์ชันการใช้งาน และมีสินค้าหลากหลายรุ่นใหม่แข่งขันได้ดีกว่าแบรนด์เวิร์ลพูลในประเทศอินเดีย
ทั้งนี้ เวิร์ลพูล ได้ยุตติการทำธุรกิจและออกจากตลาดในประเทศรัสเซีย เมื่อปีที่ผ่านไปซึ่งซึ่งเป็นไปตามนโยบายคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาต่อประเทศรัสเซียที่ทำสงครามบุกรุกประเทศยูเครน ส่งผลให้เวิร์ลพูลได้รับผลกระทบจากรายได้ในรัสเซีย คาสัคสถาน และบางประเทศในกลุ่มเครือจักรภพ รวมเป็นรายได้ที่ต้องสูญเสียไปในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 ระหว่าง 300 ถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11,100-14,800 ล้านบาท
