เวียดนามส่งทุเรียนเข้าจีนเร็วกว่าไทย 3 วัน ส่งออกทุเรียนไทยไปจีนปี 67 ชะลอตัวจากปี 66 ถึง 30%

เวียดนาม ส่ง ทุเรียน เข้าจีนเร็วกว่าไทย 3 วัน ส่งออก ทุเรียน ไทยไปจีนปี 67 ชะลอตัวจากปี 66 ถึง 30%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2566 การส่งออกผลไม้ของไทยไปจีนนำโดยทุเรียนนั้น มีบทบาทต่อภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปจีน มีสัดส่วนถึง 18.2% ของการส่งออกสินค้าไทยไปจีนทั้งหมด ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยไปจีนโดยรวมหดตัวเล็กน้อยที่ -0.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา แต่หากไม่รวมสินค้าในกลุ่มผลไม้จะหดตัวที่ -5.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปี 2566

ขณะที่ทุเรียนสดถือเป็นผลไม้ที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงสุด โดยมีสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหลักมาจาก

1. ความต้องการบริโภคทุเรียนในตลาดจีนมีมากขึ้นตามความนิยม
และ 2. ปริมาณผลผลิตทุเรียนในประเทศที่เพิ่มขึ้นตามพื้นที่เพาะปลูก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ การขยายช่องทางการขาย อาทิ ช่องทางออนไลน์ และการเพิ่มช่องทางขนส่งทางราง ผ่านรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว ช่วยลดระยะเวลาและเพิ่มความสะดวกในการขนส่ง ได้มากขึ้น ซึ่งในปี 2566 เริ่มมีการส่งทุเรียนผ่านเส้นทางนี้มากขึ้น โดยคิดเป็น 5.7% ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดไปจีน

สำหรับปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าภาพรวมการส่งออกทุเรียนสดไทยไปจีนอาจอยู่ที่ 4,500 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 12% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเติบโตในทิศทางชะลอลง จากฐานที่สูงในปีก่อน โดยเป็นผลจากปริมาณส่งออกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเติบโตในทิศทางชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากผลผลิตบางพื้นที่อาจได้รับผลกระทบจากอากาศแปรปรวน ขณะที่ราคาส่งออกคาดว่าอาจขยับขึ้นได้เล็กน้อยที่ 2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเติบโตชะลอลงจากปีก่อน เพราะแม้ความต้องการทุเรียนสดจากไทย ตลาดจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ทุเรียนสดจากไทยก็อาจถูกกดดันจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ทั้งนี้ หากการส่งออกทุเรียนสดต่ำกว่าคาดการณ์ก็อาจส่งผลต่อการส่งออกไทยไปจีนในภาพรวม

มองไปข้างหน้า ความสามารถด้านการแข่งขันเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการส่งออกทุเรียนสดของไทยไปจีน แม้ว่าในปี 2566 ทุเรียนสดของไทยจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ไว้ได้อยู่ หรือราว 68% ของมูลค่าการน าเข้าทุเรียนสดทั้งหมดของจีน แต่ทุเรียนเวียดนามมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น หลังได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้ส่งออกทุเรียนสดอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับมาเลเซียที่อาจได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนได้ในปีนี้ น่าจะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของทุเรียนสดไทยในจีนที่อาจปรับลดลงได้

ดังนั้น การรักษาคุณภาพของทุเรียนไทยที่ปัจจุบันยังมีความได้เปรียบอยู่ จากรสชาติที่เป็นที่นิยม และความหลากหลายของพันธุ์ จะเป็นกุญแจสำคัญ ท่ามกลางภาวะที่คู่แข่งจากประเทศเพื่อนบ้าน และกระทั่งในจีนกำลังเร่งพัฒนาผลผลิตทุเรียน เพื่อรองรับกับความต้องการบริโภคทุเรียนของชาวจีนที่ยังมีอยู่มากและจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงข้างหน้า

เปรียบเทียบทุเรียนสดของไทยกับคู่แข่งสำคัญในตลาดจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเวียดนาม มีดังนี้

ไทย มีราคานำเข้าไปประเทศจีนที่ 4.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หรือราว 166 บาทต่อตัน ใช้เวลาขนส่งราวทางบก 3-4 วัน ปัจจัยบวก ได้แก่ รสชาติเป็นที่นิยมของชาวจีน ผลผลิตมีคุณภาพ มีหลากหลายพันธุ์ เช่น หมอนทอง ชะนี พวงมณี หลงลับแล หลินลับแล หินภูเขาไฟ สิ่งที่ท้าทาย คือ การรักษาคุณภาพสินค้า

เวียดนามมีราคานำเข้าไปประเทศจีนที่ 4.3 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หรือราว 155 บาทต่อตัน ใช้เวลาขนส่งราวทางบกเพียง 1 วัน ปัจจัยบวก ได้แก่ มีพรมแดนติดจีน ขนส่งได้เร็ว ฤดูเก็บเกี่ยวที่ยาวนานกว่า สิ่งที่ท้าทาย คือ การรักษาคุณภาพสินค้า

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles