ธนาคารกลางมาเลเซียแถลงภาวะเศรษฐกิจปี 2024 พบว่ามีอัตราการขยายตัว ที่ 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ในขณะเดียวกันยังมีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าที่ธนาคารกลางเคยคาดการณ์เอาไว้ว่าจะเติบโตเพียง 3.6% อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวอยู่ในเป้าหมายของรัฐบาลที่ระหว่าง 4.8% ถึง 5.3%
สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียในปีผ่านมาเติบโตได้สูงนั้นเป็นผลมาจากกำลังซื้อและการใช้จ่ายของครัวเรือนผู้บริโภคภายในประเทศที่มีความแข็งแกร่ง สะท้อนไปถึงภาวะการจ้างงานที่ขยายตัวในประเทศมาเลเซียด้วย นอกจากนี้นโยบายจากภาพรัฐบาลที่สนับสนุนรายจ่ายสุทธิของแต่ละครัวเรือนในภาพรวมเพิ่มขึ้น สถานที่ปัจจัยภายนอกพบว่าภาคการส่งออกของประเทศมาเลเซียฟื้นตัวต่อเนื่องท่ามกลาง เศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้าสู่ประเทศมาเลเซียมีจำนวนมากกว่า 25 ล้านคน รวมถึงกำลังการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นในประเทศมาเลเซีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกของมาเลเซียที่ฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2023 ที่ชะลอตัวลงมากขึ้น -8% เมื่อเทียบกับในปี 2022 นั้น สอดคล้องไปกับจังหวะการฟื้นตัวของสินค้าเทคโนโลยี ได้แก่ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลก ประเทศมาเลเซียที่รู้จักกันดีว่าเป็นฐานการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และมีนโยบายการต่างประเทศเป็นกลาง ที่สำคัญ ประเทศมาเลเซียได้ประโยชน์อย่างมากมายจากการเคลื่อนย้ายเครือข่ายห่วงโซ่การผลิตอิเล็กทรอนิกส์จากจีนมายังประเทศมาเลเซีย ท่ามกลางความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาในปีที่ผ่านมา
สถาบันเพื่อประชาธิปไตย และกิจการเศรษฐกิจแห่งชาติประเทศมาเลเซีย หรือ IDEA เปิดเผยว่า ปี 2024 ที่เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวได้สูงถึง 5.1% นั้น ส่งผลให้เป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซียมากกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งสภาได้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพและแข็งแกร่งของมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ภาวะการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศมาเลเซียในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 กลับสะท้อนให้เห็นถึงการอ่อนแรงลงเนื่องจากขยายตัวได้เพียง 5.0% ในกระดาษที่ไตรมาสที่สามก่อนหน้านั้นเติบโตได้ถึง 5.4% และในไตรมาสที่สองที่ขยายตัวได้ถึง 5.9%
ทั้งนี้ 5 ประเทศ ชั้นนำในอาเซียนได้ประกาศอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปี 2567 เป็นที่เรียบร้อย มีดังนี้ 1.เวียดนาม +7.09% 2.ฟิลิปปินส์ +5.6% 3. มาเลเซีย +5.1% 4. อินโดนีเซีย 5.03% 5. สิงคโปร์ +4.4% ตามลำดับ