นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชียล ว่า ประเทศแคนาดาตกลงที่จะสร้างความมั่นใจ ว่าทั้งสองประเทศจะมีความมั่นคงตามแนวชายแดนด้านเหนือ และในที่สุดจะยุติการแพร่ระบาดของยามรณะชื่อว่าเฟนทานิน ซึ่งทะลักเข้ามาในประเทศของเรา ทำให้ประชาชนชาวอำนวยการต้องเสียชีวิตนับหลายพันคน ในขณะที่ทำลายทั้งครอบครัว และสังคมกระจายไปทั่วประเทศ
แคนาดาจะลงมือปฏิบัติตามแผนความมั่นคงแนวชายแดนที่มีมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 44,200 ล้านบาท และตามที่นายกรัฐมนตรีแคนาดานายจัสติน ทรูโด ยืนยันว่า จะมีการบังคับการใช้ เฮลิคอปเตอร์ใหม่ เทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่รัฐ จะเพิ่มความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกัน และจะเพิ่มสรรพกำลังต่างๆ ที่จะหยุดการหลั่งไหลของยามรณะ
เจ้าหน้าที่เกือบ 10,000 คน ตามแนวชายแดนจะปฏิบัติการเพื่อปกป้องแนวชายแดน นอกจากนี้แคนาดายังตกลงและทุ่มเทครั้งใหม่ ด้วยการแต่งตั้งผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านยามรณะเหนทานิล สหรัฐจะระบุรายชื่อกลุ่มครอบงำตลาดยาเฟนทานิลในฐานะเป็นผู้ก่อการร้าย ให้ความมั่นใจในการติดตามและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงและในเ 7 วันตามแนวชายแดน จะมีการเปิดตัวคณะทำงานการปราบปรามร่วมระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมที่มีการวางแผนไว้ ต่อสู้กับยามรณะและการฟอกเงิน ผมได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฉบับใหม่ที่จะจัดการกับปัญหาอาชญากรรม และยาเฟนทานิล พร้อมกับจัดงบประมาณสนับสนุน 200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6,800 ล้านบาท
ในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา นี่คือความรับผิดชอบของผมที่จะให้ความมั่นใจ ด้านความปลอดภัยกับประชาชนชาวอเมริกันทุกคน และผมได้ทำในสิ่งเหล่านี้ ผมดีใจอย่างมาก กับผลลัพธ์เบื้องต้นในการเจรจาครั้งนี้ และมาตรการภาษีที่ได้ประกาศไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจะพักการบังคับใช้เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน เพื่อจะติดตามว่าการเจรจาข้อตกลงเศรษฐกิจกับแคนาดาในที่สุดจะถูกจัดโครงสร้างต่างๆตามที่ตกลงกันได้หรือไม่ ความยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย
นายกรัฐมนตรี แคนาดา นายจัสติน ทรูโด้ โพสต์ข้อความเป็นสื่อโซเชียลเอ็กซ์ ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าของแคนาดาไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน รัฐบาลประเทศแคนาดา
ด้านประธานาธิบดีหญิงแห่งเม็กซิโก นางคลอเดีย เชนบาม โพสต์ข้อความเป็นสื่อโซเชียลเอ็กซ์ ว่า รัฐบาลประเทศเม็กซิโกตกลงจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 10,000 คนตามแนวชายแดนระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะยับยั้งและป้องกันบุคคลลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและยามมรณะเฟนทานิล นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐให้การตกลงที่จะทุ่มเทเพื่อป้องกันการลักลอบขนอาวุธหนักที่มีศักยภาพการทำร้ายรุนแรงเข้ามาในประเทศเม็กซิโก
การเจรจาที่ประสบความสำเร็จของผู้นำสูงสุดทั้ง 3 ประเทศได้เกิดขึ้นผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์สายตรงซึ่งกันและกัน ก่อนหน้าที่จะมีเวลาเหลือไม่ถึง 48 ชั่วโมงตามการประกาศคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐกับมาตรการเก็บขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าสูงถึง 25% นับเป็นอัตราภาษีศุลกากรในสหรัฐอเมริกาที่สูงที่สุดในรอบ 90 ปีกับประเทศแคนาดาและเม็กซิโก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ผ่านมา ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามในคำสั่งบริหารประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าขึ้น 25% กับประเทศเม็กซิโก และแคนาดา และเก็บภาษีสินค้านำเข้าขึ้น 10% กับประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ปรับลดอัตราภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ 10% กับประเทศแคนาดา มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นไป ส่งผลต่อมูลค่าการค้าของทั้ง 4 ประเทศที่จะกระทบถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 71.4 ล้านล้านบาท คาดนำไปสู่สงครามการค้าในที่สุด เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาตรวจพบการกระทำที่ผิดกฎหมายในการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทเวชภัณฑ์ที่มีชื่อว่าเฟนทานิลผ่านจากทั้ง 3 ประเทศเข้าสู่สหรัฐอเมริกา
