ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐ รายงานว่า วันที่ 10 กรกฎาคม 2025 ตามเวลาในนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ราคาหุ้นบริษัทเอ็นวีเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไมโครชิพยักษ์ใหญ่ และชื่อดังที่สุดของโลก มีราคาซื้อขายสูงขึ้น 0.75% แตะที่ระดับ 164.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น หรือกว่าหุ้นละ 5,415 บาท ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทเอ็นมีเดียพุ่งสูงทะลุถึง 4,004 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีมูลค่ากว่า 132.1 ล้านล้านบาท แตะหลัก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง หรือมีมูลค่ากว่า 132 ล้านล้านบาท ทำให้บริษัทเอ็นวีเดียไม่เพียงกลายเป็นบริษัทแรกของโลก แต่ยังเป็นบริษัทแรกของสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าบริษัทแตะหลัก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรก และครั้งประวัติศาสตร์ของโลกและสหรัฐอเมริกาตามลำดับ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ตามเวลาในนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ราคาหุ้นบริษัทเอ็นวีเดีย(Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไมโครชิพยักษ์ใหญ่ และชื่อดังที่สุดของโลก มีราคาซื้อขายสูงขึ้น 2.48% แตะที่ระดับ 164.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น หรือกว่าหุ้นละ 5,425 บาท ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทเอ็นมีเดียพุ่งสูงทะลุถึงหลัก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีมูลค่ากว่า 132 ล้านล้านบาท ทำให้บริษัทเอ็นวีเดียไม่เพียงกลายเป็นบริษัทแรกของโลก แต่ยังเป็นบริษัทแรกของสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่าบริษัทแตะหลัก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก และครั้งประวัติศาสตร์ของโลกและสหรัฐอเมริกาตามลำดับ
นับตั้งแต่ต้นปี 2025 นี้จนมาถึงในวันที่ 8 กรกฎาคม ตามเวลาในสหรัฐ ปรากฏว่าราคาหุ้นของบริษัทเอ็นวีเดียพุ่งทะยานขึ้นกว่า 20% ที่สำคัญ มีราคาพุ่งสูงขึ้นกว่า 1,000% นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา และพุ่งขึ้นกว่า 1,500% ในช่วง 5 ปีผ่านมา ด้วยเหตุนี้ทำให้หุ้นของบริษัทเอ็นมีเดียคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 7.5% ของดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นที่รวบรวมบริษัทสัญชาติอเมริกันที่เป็นขนาดใหญ่ที่สุด 500 อันดับแรกของสหรัฐอเมริกา
สาเหตุจากเอ็นวีเดียกลายเป็นบริษัทที่ผลิตไมโครชิพซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ ธุรกิจและตลาดไมโครชิพเอไอขยายตัวอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างมากมายทั่วโลกจากแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเอไอเข้ามาใช้ในกิจการเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญ บริษัทไมโครซอฟท์ อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าในปัจจุบันกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 99,000,000 ล้านบาทเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทเอ็นวีเดีย และยังมีบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำยักษ์ใหญ่ระดับโลกเป็นลูกค้าของบริษัทเอ็นวีเดีย ได้แก่ เมตะ แพลทฟอร์ม อินคอร์ปอเรชั่น, อเมซอนดอทคอม อินคอร์ปอเรชั่น และอัลฟาเบธ อินคอร์ปอเรชั่น เจ้าของกูเกิ้ล
บริษัทเหล่านี้ได้ตั้งงบประมาณเงินลงทุนในปีงบประมาณ 2026 มีมูลค่าสูงถึง 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11.55 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในปีปัจจุบันที่ 310,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10.32 ล้านล้านบาท บริษัททั้งหมดที่กล่าวมานั้นคิดเป็น 40% ของรายได้บริษัทเอ็นวีเดีย
ผลพวงจากราคาหุ้นที่พุ่งสูงในขณะนี้ทำให้บริษัทเอ็นวีเดียกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหรือใหญ่โตมากที่สุดของโลก โดยมีขนาดใหญ่แซงทั้งบริษัท แอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น และบริษัทไมโครซอฟท์ อินคอร์ปอเรชั่น ที่แต่ละบริษัทมีมูลค่าบริษัทในปัจจุบันที่ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 102 ล้านล้านบาท และ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 122 ล้านล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัทเอ็นวีเดียก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1993 หรือมีอายุมา 32 ปีจนถึงปัจจุบัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เอ็นวีเดียมีมูลค่าบริษัทแตะหลัก 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก หรือกว่า 66 ล้านล้านบาท ต่อมาในเดือนมิถุนายน ปี 2025 นี้ มีมูลค่าบริษัทแตะหลัก 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก หรือกว่า 99 ล้านล้านบาท จนกระทั่งในวันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของทางบริษัทเอ็นวีดีและของโลกที่มีมูลค่าบริษัทแตะหลัก มีมูลค่าบริษัทแตะหลัก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก หรือกว่า 132 ล้านล้านบาท