นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์ที่บุกเบิกตลาดอีวีในประเทศไทยให้ได้รับความนิยม โดย ณ ปัจจุบัน เอ็มจีถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมมากที่สุด ทั้งในรูปแบบของเอสยูวีอีวี รถสเตชันแวกอนอีวี รถแฮทช์แบคอีวี รถ e-MPV และรถโรดสเตอร์อีวี ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และรองรับการใช้งานที่แตกต่าง
สำหรับรุ่น NEW MG4 ELECTRIC ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกอย่างรวดเร็ว การันตีด้วยตัวเลขยอดขายสะสมรวมทั่วโลกกว่า 180,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี 10 เดือน ทั้งยังสร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญให้กับแบรนด์ เอ็มจี ในตลาดอีวีประเทศไทย โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และในส่วนของยอดรวมทุกรุ่นของรถไฟฟ้า เอ็มจี สามารถสร้างสถิติครองส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในไตรมาสแรกด้วยสัดส่วน 14.7% โดยมียอดรวมทุกรุ่นกว่า 2,661 คัน
NEW MG4 ELECTRIC เป็นรถแฮทช์แบคไฟฟ้าของ เอ็มจี โดยเป็นโกลบอลอีวีรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นบน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่ดีไซน์มาเพื่อรถอีวีโดยเฉพาะ มาพร้อมหลากหลายจุดเด่นที่บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการเป็น “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่ขับสนุกเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็น การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทำให้รถรุ่นนี้มีสมรรถนะและการควบคุมที่ดีเยี่ยม เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM มากถึง 26 ระบบ
ทั้งนี้ NEW MG4 ELECTRIC ถือเป็นโมเดลที่มีความครบครันทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ เทคโนโลยี ความปลอดภัย ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ด้วยราคาจัดจำหน่ายเริ่มต้นที่ 709,900 บาท ในรุ่น STANDARD RANGE ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 423 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และราคา 889,900 บาท ในรุ่น LONG RANGE ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 540 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของและเข้าถึงยนตรกรรมคุณภาพได้ง่ายขึ้น รวมถึงรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง XPOWER ที่มาพร้อมมอเตอร์คู่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ในราคาจำหน่ายที่ 1,119,900 บาท