ธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า โครงการระดมทุนสำหรับธนาคาร (Bank Term Funding Program : BTFP) จะหมดอายุตามกำหนดในวันที่ 11 มี.ค.นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อปีที่แล้วประชาชนชาวสหรัฐแห่ถอนเงินออกจากธนาคารพาณิชย์จำนวนมากหลังจากที่ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ล้มละลายอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เพื่อป้องกันวิกฤตในภาคการเงิน เฟดจึงเปิดตัวโครงการ BTFP เพื่อให้เงินกู้ยืมฉุกเฉินแก่ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ โดยได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีคลังภายใต้ “สถานการณ์ผิดปกติและเร่งด่วน
ทั้งนี้ การยุติโครงการดังกล่าวถือเป็นสัญญาณว่าความตื่นตระหนกในภาคธนาคารได้คลี่คลายลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้เฟดกล่าวว่าจะยังคงให้เงินกู้ยืมรอบใหม่จนกว่าโครงการ BTFP จะสิ้นสุด แต่ก็ยังประกาศด้วยว่า ในวันนี้ (25 ม.ค.) เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ทันทีจนกว่าโครงการจะสิ้นสุด ถือเป็นการปิดช่องโหว่การนำเงินกู้ดังกล่าวมาเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา (arbitrage) ที่ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐนิยมทำกัน
สำหรับ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมใหม่นี้จะไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินสำรอง ณ วันที่กู้ยืม โดยเมื่อวันอังคาร (23 ม.ค.) อัตราเงินกู้ BTFP อยู่ที่ 4.93% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินสำรองในปัจจุบันอยู่ที่ 5.40% เท่ากับว่าจะเพิ่มขึ้นมาเกือบ 0.50%
