วิจัยกรุงศรี เปิดเผยว่า ครัวเรือนไทยเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รายได้ที่โตต่ำกลายโจทย์ใหญ่ของครัวเรือนไทยเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลรายได้และรายจ่ายของครัวเรือนจากผลสำรวจล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระหว่างปี 2564-2566 เราจะมองเห็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญ กล่าวคือ รายได้โดยเฉลี่ยของครัวเรือนทั้งหมดเพิ่มขึ้นเพียงปีละ 1,806 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งใกล้เคียงกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นปีละ 1,803 บาทต่อครัวเรือน สะท้อนถึงการขาดรายได้ส่วนเกิน? ที่เพียงพอในการใช้จ่ายหรือการออมของครัวเรือนไทย
กลุ่มที่น่ากังวลคือ กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 69% ของจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศ กำลังประสบปัญหารายได้โตไม่ทันการเพิ่มขึ้นของรายจ่าย โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีทั้งรายได้และรายจ่ายลดลงแสดงให้เห็นถึงการหดตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกลุ่มนี้ รายได้ของกลุ่มแรงงานไทยยังคงโตต่ำเมื่อเทียบกับระดับ ก่อนโควิด ตอกย้ำความเปราะบางทางการเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้ปานกลาง-ต่ำ
ข้อมูลผลสำรวจด้านแรงงานและค่าจ้างปี 2567 ยิ่งตอกย้ำความเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนไทย โดยรายได้ของแรงงานเฉลี่ยในรูปตัวเงินในปีดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับก่อนโควิด 11.7% หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยเพียง 2.8% ต่อปี และเมื่อหักผลของเงินเฟ้อแล้ว รายได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้นจากระดับก่อนโควิดเพียง 3.2% หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.8% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังซื้อของประชาชนยังอ่อนแอ ผลจากรายได้และความมั่นคงทางการเงินของแรงงานยังไม่ฟื้น ตัวเท่าที่ควร
ปัญหาความเปราะบางดังกล่าวพบได้มากที่สุดในกลุ่มแรงงานที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,800 บาทต่อเดือน ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยในรูปตัวเงินลดลงถึง -11.8% (หรือลดลงปีละ -2.5%) และหากหักผลของเงินเฟ้อออกแล้ว รายได้ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง -18.5% (ลดลงปีละ -4.0%) จึงอาจกล่าวได้ว่าแรงงานกลุ่มนี้ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญของเศรษฐกิจ กำลังประสบกับความยากลำบากทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้น และสะท้อนออกมาในระดับมหภาคในรูปแบบของการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอ
ภาพดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางทางการเงินของครัวเรือนไทยที่มีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็น”แผลเป็น” จากวิกฤติโควิด-19 ในปี 2563 ที่ทำให้แรงงานไทยมีรายได้ลดลง และสอดคล้องกับมูลค่าสินทรัพย์ที่ครัวเรือนไทยถือครองลดลง
นอกจากนี้ เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเงินฝากในระบบธนาคารเพิ่มเติม ยังพบว่าปัญหาการขาดสภาพคล่องกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยกลุ่มผู้ฝากเงินที่มีเงินฝากธนาคารน้อยกว่า 500,000 บาท ซึ่งมีจำนวนบัญชีเงินฝาก ทั้งหมดรวม 134,097,089 บัญชี หรือคิดเป็นสัดส่วน 97.4% ของจำนวนบัญชีเงินฝากทั้งหมดในประเทศไทย มีเงินออมส่วนเกินลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่ากลุ่มประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกำลังประสบปัญหาในการใช้จ่ายและการเข้าถึงสินเชื่อ รวม ถึงการขาดแคลนสภาพคล่องที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในระยะข้างหน้า