กระทรวงมหาดไทยของญี่ปุ่น เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) วันนี้ว่าปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือน ก.ค. 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.6% ในเดือน มิ.ย. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยดัชนี core CPI ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากค่าไฟที่พุ่งขึ้นถึง 22% หลังจากรัฐบาลระงับมาตรการอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค ซึ่งชดเชยกับราคาอาหารแปรรูปและค่าที่พักที่ชะลอตัวลง
นายทาคาฟูมิ ฟูจิตะ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเมจิ ยาสุดะ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค. ถึงแม้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจะไม่ได้รุนแรงมาก แต่เชื่อว่า BOJ (ธนาคารกลางญี่ปุ่น) จะยังคงเดินหน้าปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติต่อไป
ขณะเดียวกัน ดัชนี core-core CPI ซึ่งไม่นับรวมทั้งราคาพลังงานและอาหารสด และเป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มราคาพื้นฐาน แตะที่ระดับ 1.9% ในเดือน ก.ค. ชะลอตัวลงจากระดับ 2.2% ในเดือน มิ.ย. โดยลดลงต่ำกว่าระดับ 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา แต่ BOJ ก็ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การที่อัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% อาจเป็นเหตุผลสนับสนุนให้ BOJ ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปเพื่อรอดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อน
ทั้งนี้ BOJ ยังคงให้ความสำคัญกับราคาบริการเป็นพิเศษในการวิเคราะห์แนวโน้มเงินเฟ้อ โดยรายงานระบุว่า ราคาบริการปรับตัวสูงขึ้น 1.4% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ชะลอลงจากระดับ 1.7% ในเดือน มิ.ย.
นายทาโร่ คิมูระ นักเศรษฐศาสตร์จากบลูมเบิร์ก อีโคโนมิกส์ มองว่าการชะลอตัวครั้งนี้เป็นเพราะการเปรียบเทียบกับตัวเลขปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นรัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการอุดหนุนการท่องเที่ยว ทำให้ตัวเลขในปีนี้ดูเหมือนชะลอตัวลง
“CPI ในญี่ปุ่นเดือน ก.ค. ที่สูงขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ซึ่งสอดคล้องกับที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดการณ์ไว้ว่าภาวะเงินเฟ้อกำลังแผ่ขยายไปทั่ว หนึ่งในสาเหตุคือการตัดเงินช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟ ส่วนราคาบริการต่างๆ ที่ BOJ จับตามองเป็นพิเศษนั้น แม้จะดูเหมือนว่าชะลอตัวลง แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะเมื่อปีที่แล้วมีการยกเลิกเงินอุดหนุนการท่องเที่ยว ทำให้ตัวเลขปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วดูต่ำกว่าความเป็นจริง” นายคิมูระกล่าว
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. BOJ ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.25% พร้อมทั้งชี้แจงว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงติดลบอยู่มาก ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต จากก่อนหน้านี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับเท่ากับหรือสูงกว่าเป้าหมาย 2% ที่ BOJ ตั้งไว้ ติดต่อกันมาเป็นเวลา 28 เดือน