แรงหนุนท่องเที่ยว ส่งออกสดใส การบริโภคเอกชนยังดี ดันเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค. ยังโตต่อ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ เศรษฐกิจไทย ในเดือนมกราคม 2568 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ของการผลิตภาคอุตสาหกรรม และนโยบายเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด

โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมกราคม 2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2.1% สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนม.ค.68 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.4% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนม.ค.68 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 59.0 จากระดับ 57.9 ในเดือนก่อน เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ รวมถึงการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ในเดือนม.ค.68 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -16.3%

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนม.ค.68 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -14.8% สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ในเดือนม.ค.68 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -2.4%

มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนม.ค.68 อยู่ที่ 25,277 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่าขยายตัวที่ 11.4%

เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ในเดือนม.ค.68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย รวม 3.70 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 22.2% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนม.ค.68 จำนวน 24.3 ล้านคน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน 3.6%

ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนม.ค.68 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.8% ตามการเพิ่มขึ้นในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าว และปาล์มน้ำมัน เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผลผลิตมันสำปะหลัง และข้าวโพด ลดลงจากเดือนก่อน สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนม.ค.68 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 91.6 จากระดับ 90.1 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกขยายตัวจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนม.ค.68 อยู่ที่ 1.32% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ 0.83% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธ.ค.67 อยู่ที่ 63.9% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอก ยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 242.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles