นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า “ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ปีที่เเล้ว โดยไตรมาสนี้มีอัตราขนส่งผู้โดยสารรวม สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ร้อยละ 93 และมีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศปลายเดือนมีนาคม แตะร้อยละ 40 สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ตอกย้ำการเป็นแบรนด์เเละผู้นำที่เเข็งเเกร่ง ด้วยฝูงบินใหญ่มีเครื่องบินให้บริการมากกว่าคู่แข่ง พร้อมจุดเด่นด้านความตรงต่อเวลา ผนวกกับการทำการตลาดกับลูกค้าภายในประเทศในกลุ่มต่างๆ ทำให้ไทยแอร์เอเชียของเราอยู่ในการรับรู้ของลูกค้าอยู่ตลอด
สำหรับตลาดระหว่างประเทศในไตรมาสนี้สามารถเติบโตน่าพอใจเช่นกัน โดยเฉพาะการได้รับประโยชน์จากนโยบายยกเลิกวีซ่าระหว่างประเทศไทยและจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งขาเข้าเเละขาออก ในขณะที่ตลาดอินเดีย อาเซียน ไต้หวัน เเละญี่ปุ่น ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ TAA ยังเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ๆ ท้ายไตรมาส อาทิ เส้นทาง ดอนเมือง–ปักกิ่ง เส้นทางบินสิทธิ Fifth Freedom บินเเวะรับส่งผู้โดยสาร อีก 2 เส้นทาง คือ “ดอนเมือง–ไทเป–โอกินาวา” และ “ดอนเมือง–เกาสง–โตเกียว (นาริตะ)” ซึ่งจะเริ่มบินในไตรมาส 2 นี้ ถือเป็นโอกาสในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ” นายสันติสุขกล่าว
ทั้งนี้ TAA ยังคงทำงานหนักร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อนำพานักท่องเที่ยวเข้าไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ แคมเปญ AirAsia Boarding Pass Privileges ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถนำบัตรโดยสารแอร์เอเชีย แลกรับส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร สินค้า บริการ ได้กับ 18 พาร์ทเนอร์ของไทย เพิ่มมูลค่าในการเดินทางยิ่งขึ้น
สำหรับในไตรมาส 2 ปี 2567 แม้จะเข้าสู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว เเต่ TAA ได้เตรียมเเผนกระตุ้นการเดินทางทั้งเส้นทางภายในเเละระหว่างประเทศ พร้อมประเมินเเผนเพิ่มความถี่บินในเส้นทางบินจีนยอดนิยมซึ่งน่าจะทยอยเพิ่มได้ในต้นไตรมาส 3 ในขณะที่นโยบายภาครัฐในการเจรจาเพิ่มโควต้านักท่องเที่ยวอินเดีย คาดว่าจะมีข่าวที่เป็นบวกกับอุตสาหกรรมในเร็วๆ นี้ โดยอยู่ระหว่างรอการสรุปและจัดสรรที่นั่งเพิ่มจากทางสำนักงานการบินพลเรือนเเห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ตลอดปี 2567 TAA ยังคงเป้าจะขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 20-21 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยที่ร้อยละ 90 มีรายได้จากการขายและบริการ เติบโตร้อยละ 20-23 เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมคงแผนขยายฝูงบินเป็น 60 ณ สิ้นปีนี้