โซลาร์ เอ็ดจ์ (Solar Edge) หนึ่งในผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงาน 400 คน หรือ 7.1% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบันที่มีจำนวน 5,633 คน ในจำนวนพนักงานถูกปลดออก 400 คน จะมีครึ่งหนึ่ง หรือ 50% เป็นพนักงานที่ถูกปลดออกในประเทศอิสราเอล
สาเหตุจากต้องการฟื้นความสามารถในการทำกำไร และสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากธุรกิจและตลาดแผงโซลาร์เซลล์ถึงจุดอิ่มตัว และตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2023 อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีสต็อกสินค้าและอุปกรณ์ล้นตลาดเกินความต้องการเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในตลาดยุโรป
พนักงานที่เข้าข่ายจะถูกปลดออกในครั้งนี้จะเป็นพนักงานในทุกแผนกของบริษัท รวมถึงการตัดลดค่าใช้จ่ายในงบประมาณฝ่ายสมัครพนักงานใหม่ด้วย จากข้อมูลบริษัทถึงเมื่อสิ้นปีผ่านมา บริษัทมีพนักงานรวม 5,633 คน
ทั้งนี้ โซลาร์ เอ็ดจ์ มีผลประกอบการในไตรามาสที่ 1 ปีนี้ ด้วยภาวะขาดทุน 157 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,809 ล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นผลการดำเนินงานขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ ได้ประกาศเมื่อมกราคมปีนี้ว่า ตั้งเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงาน 16% หรือกว่า 900 คนขึ้นไป ขณะที่ราคาหุ้นโซลาร์ เอ็ดจ์ ทรุดต่ำหนักถึง -66% ตั้งแค่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน