โดนัลด์ ทรัมป์ กวาดคะแนนแตะ 277 เสียง ชนะเลือกตั้งเป็นว่าที่ปธน.สหรัฐคนที่ 47 ทรัมป์ชนะเลือกตั้งรัฐวิสคอนซิน ได้อีก 1 ใน 7 รัฐสวิง กมลา แฮร์ริส ได้ 244 คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง

โดนัลด์ ทรัมป์ กวาดคะแนนแตะ 277 เสียง ชนะเลือกตั้งเป็นว่าที่ปธน.สหรัฐคนที่ 47 ทรัมป์ชนะเลือกตั้งรัฐวิสคอนซิน ได้อีก 1 ใน 7 รัฐสวิง กมลา แฮร์ริส ได้ 244 คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง

สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ (ABC News) สำนักข่าวเอพี (AP News) และสำนักข่าวชื่อดังอีกหลายแห่ง รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อายุ 78 ปี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 กวาดชัยชนะในรัฐวิสคอนซินเป็นผลสำเร็จ ได้คะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 10 เสียง ส่งผลให้คะแนนรวมคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Voters รวมสะสมแตะ 277 คะแนน ชนะนางกมลา แฮร์ริส ที่ได้คะแนนสะสมที่ 244 เสียง ขณะที่คะแนนเสียงจากการลงคะแนนของประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ที่ 70,927,355 คะแนน หรือ 51% ส่วนนางกมลา แฮร์ริส ได้ 66,017,679 คะแนน หรือ 47.5%

ทำให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ชนะการเลือกตั้งขึ้นเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 อย่างเป็นทางการ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกลับมาชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกในรอบกว่า 132 ปีที่สามารถกลับมาชนะได้หลังพลาดการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 เมื่อปี 2020 ในปี 1892 เป็นปีที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ สามารถกลับมาชนะเลือกตั้งในวาระที่ 2 โดยทิ้งช่วงห่าง 1 สมัย

ขณะที่นายเจดี แวนซ์ ซึ่งลงชิงชัยในตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ คู่กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในครั้งนี้ ได้กลายเป็นว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐที่อยู่ในกลุ่มวัยมิลเลนเนียมในทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวฟ๊อกซ์นิวส์ (Fox News) เป็นสำนักข่าวในสหรัฐอเมริกาแห่งแรก ที่ประกาศว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ได้รับการคาดการณ์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 หรือคนที่ 47

สำนักข่าวเอพี (AP News) รายงานวันนี้ 6 พฤศจิกายน 2024 เวลา 02.00 น. ในกรุงวอชิงตัน ดีซี หรือตรงกับเวลา 14.00 น. ตามเวลาไทย พบว่า สัดส่วนคะแนนเสียงที่คาดการณ์เป็นคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Voters ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ที่ 248 คะแนน ขณะที่นางกมลา แฮร์ริส อยู่ที่ 214 คะแนน หากใครได้รับคะแนนดังกล่าวถึง 270 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ในปี 2024 นี้

ขณะที่การเลือกตั้งวุฒิสมาชิก พบว่าพรรครีพลับลิกันได้จำนวนที่นั่ง 51 เสียงต่อพรรคเดโมแครตที่ 42 เสียง สอดคล้องกับจำนวนเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาพรรครีพลับลิกันอยู่ที่ 197 เสียงต่อพรรคเดโมแครตที่ 179 เสียง และการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพลับลิกันมีจำนวน 27 เสียงต่อพรรคเดโมแครตที่ 23 เสียง

รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสวิง โดยนับคะแนนไปถึง 94% ของคะแนนทั้งหมด พบว่าอดีตประธานาธิบดีคนที่ 45 นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีสัดส่วนของคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสูงถึง 50.9% ชนะนางกมลา แฮร์ริส อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐที่มีคะแนน 48.4% สำหรับรัฐนี้มีคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง 16 เสียง นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนดิบนำห่างถึง 125,000 คะแนน ซึ่งทำให้คะแนนที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอที่นางกมลา แฮร์ริส จะได้รับคะแนนตีตื้นขึ้นมาเสมอ หรือชนะได้ ส่งผลให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2024 นี้ ทำให้รัฐจอร์เจียกลายเป็นรัฐแรกใน 7 รัฐสวิงที่เปลี่ยนไปเป็นของพรรครีพลับลิกันเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากในการเลือกตั้งปี 2020 นายโจ ไบเดน ชนะนายโดนัลด์ ทรัมป์ในรัฐดังกล่าว

สำหรับรัฐสวิงอื่นๆ ที่ 6 รัฐ พบว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีสัดส่วนคะแนนคณะผู้เลือกตั้งนำนางกมลา แฮร์ริส ดังนี้ รัฐนอร์ท แคโรไลนา นับไป 98% นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำ+3% รัฐเพนซิลวาเนียนับไป 94% นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำ +3% รัฐแอริโซนานับไป 51% นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำ +1% รัฐมิชิแกนนับไป 70% นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำ +6% รัฐวิสคอนซินนับไป 88% นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำ +4% และรัฐเนวาดานับไป 78% นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำ +4%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles