นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (Toyota) เปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์ในภาพรวมทั้งตลาดในไทยเดือนเมษายน 2567 มีจำนวน 46,738 คัน ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ประกอบด้วยกลุ่มรถยนต์นั่งจำนวน 17,288 คัน ลดลง 14.4% กลุ่มรถยนต์เชิงพาณิชย์จำนวน 29,450 คัน ลดลง 25.1% และกลุ่มรถกระบะขนาด 1 ตันจำนวน 17,689 คัน ลดลง 34%
สำหรับยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ xEV มีจำนวน 15,161 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 32.4% ของตลาดรถยนต์ในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวในปี 2566 ยอดขายทั้งหมดดังกล่าว ประกอบด้วยรถยนต์พลังงานไฮบริด (HEV) จำนวน 10,208 คัน เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีผ่านมา ที่น่าสนใจ คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) จำนวน 4,282 คัน ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้ม ยอดขายรถยนต์ ของภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยประจำเดือน พฤษภาคม 2567 มีแนวโน้มดีขึ้นจากเดือน เมษายน 2567 ที่ผ่านมา แต่ยังคงลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า
ด้านยอดขายรถยนต์สะสม 4 เดือนแรกของปี 2567 หรือตั้งแต่มกราคม – เมษายน ได้แก่ ตลาดรถยนต์ในภาพรวมมียอดขายสะสมจำนวน 210,494 คัน ลดลง 23.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ประกอบด้วย 3 แบรนด์แรกคือ อันดับที่ 1 โตโยต้า 78,232 คัน ลดลง 17.4% ส่วนแบ่งตลาด 37.2% อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,300 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.9% และอันดับที่ 3 ฮอนด้า 30,847 คัน ลดลง 4.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%
ประเภทตลาดรถยนต์นั่งในภาพรวมจำนวน 82,903 คัน ลดลง 15.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ประกอบด้วย 3 แบรนด์แรก คืออันดับที่ 1 โตโยต้า 22,131 คัน ลดลง 37.4% ส่วนแบ่งตลาด 26.7% อันดับที่ 2 ฮอนด้า 17,640 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.3% และอันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 6,619 คัน ลดลง 1.5% ส่วนแบ่งตลาด 8%
ประเภทตลาดรถเชิงพาณิชย์ในภาพรวมจำนวน 127,591 คัน ลดลง 28.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ประกอบด้วย 3 แบรนด์แรก คืออันดับที่ 1 โตโยต้า 56,101 คัน ลดลง 5.4% ส่วนแบ่งตลาด 44% อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,300 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.5% และอันดับที่ 3 ฮอนด้า 13,207 คัน เพิ่มขึ้น 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ในภาพรวม ซึ่งหมายถึง Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV* มียอดขายสะสมจำนวน 74,114 คัน ลดลง 42.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ประกอบด้วย 3 แบรนด์แรก คืออันดับที่ 1 โตโยต้า 33,895 คัน ลดลง 31.6% ส่วนแบ่งตลาด 45.7% อันดับที่ 2 อีซูซุ 27,572 คัน ลดลง 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 37.2% และอันดับที่ 3 ฟอร์ด 7,946 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.7%
เมื่อพิจารณาประเภทรถกระบะดัดแปลง ซึ่งอยู่ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีจำนวนรวม 13,436 คัน ประกอบด้วย อันดับ 1 โตโยต้า 4,983 คัน อันดับ 2 อีซูซุ 4,212 คัน อันดับ 3 ฟอร์ด 3,151 คัน อันดับ 4 มิตซูบิชิ 924 คัน อันดับ 5 นิสสัน 166 คัน
ในขณะที่ รถกระบะประเภท Pure Pick up มียอดขายสะสมจำนวน 60,678 คัน ลดลง 42.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 ประกอบด้วย 3 แบรนด์แรก คืออันดับที่ 1 โตโยต้า 28,912 คัน ลดลง 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 47.6% อันดับที่ 2 อีซูซุ 23,360 คัน ลดลง 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.5% และอันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,795 คัน ลดลง 49.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%