โนมูระ (Nomura) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังของโลกของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะยุติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงในการประชุมวันที่ 17 ถึง 18 ธันวาคมนี้ อาจส่งผลให้เป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดครั้งแรกนับตั้งแต่การประชุมปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนหรือในรอบ 1 เดือนครึ่ง นอกจากนี้ยังประเมินว่าเฟจะตึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นดังกล่าวต่อเนื่องจนกระทั่งถึงการประชุมในเดือนมีนาคม 2026 หรือคาดการณ์ว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือนต่อเนื่อง
หากผลการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามที่โนมูระคาดการณ์ไว้ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 4.50% ถึง 4.75% ซึ่งเป็นการปรับลดลงอัตราดอกเบี้ยสองครั้งติดต่อกันรวม 0.75% นับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา
การคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้โนมูระกลายเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกของโลกที่มีการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดไปในทิศทางตรงกันข้ามกับสถาบันการเงินเกือบทั้งหมด รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์ในตลาดทุนทั่วโลก เช่น ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ และธนาคารเจพี มอร์แกน เชสแอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกาล้วนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้
โนมูระ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การคาดการณ์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ที่ผ่านไป นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงผ่านมาอยู่ในภาวะดีอย่างน่าทึ่ง เศรษฐกิจสหรัฐไม่มีสัญญาณใดๆ ที่ทำให้เฟดต้องเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้เฟดสามารถที่จะพิจารณาการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยด้วยความละเอียดอ่อน และระมัดระวังต่อไป
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของเส้นทางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เหมาะสมกับภาวะปกตินั้น เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เฟดจะต้องระมัดระวัง ดังนั้น นี่อาจจะเป็นกรณีที่เฟดชะลอการปรับอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างความมั่นใจว่าเฟดได้บริหารได้ถูกทาง