บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินตลาด หุ้นไทย สัปดาห์นี้ (9-13 ธ.ค.) ว่าจะเคลื่อนไหวในแนวรับที่ 1,440 และ 1,430 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,465 และ 1,475 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุม ECB ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และตัวเลขการส่งออก
โดยดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งคาดว่ามาจากกองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปีเป็นหลัก โดยแรงซื้อหุ้นกระจายไปในหลายอุตสาหกรรม นำโดย กลุ่มแบงก์ เทคโนโลยี และค้าปลีก นอกจากนี้ดัชนีหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ โดยประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์หากบริษัทดังกล่าวเข้ามาลงทุนในไทย นำโดย บริษัทเทคโนโลยีและบริษัทผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงาน
อย่างไรก็ดีกรอบการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยเริ่มจำกัดในเวลาต่อมาท่ามกลางสัญญาณระมัดระวังของนักลงทุน เนื่องจากมีวันหยุดระหว่างสัปดาห์ ประกอบกับนักลงทุนยังรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ช่วงปลายสัปดาห์
เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,451.96 จุด เพิ่มขึ้น 1.71% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 40,930.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.18% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.28% มาปิดที่ระดับ 321.60 จุด